สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เผย ผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือน โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบ แปลงใหญู่ ระบุ ขณะนี้มีแปลงใหญ่ประชารัฐแล้ว 512 แปลง ชู เกษตรกรกว่าร้อยละ 90 มีการรวมกลุ่มและได้รับการถ่ายทอดความรู้ โดยร้อยละ 84 มีความพึงพอใจต่อโครงการภาพรวมอยู่ในระดับมาก มั่นใจ พร้อมเดินหน้าให้ครบ 650 แปลงในปี 2559 พร้อมเร่งพัฒนาเกษตรกรให้เป็นผู้จัดการแปลงได้ด้วยตนเองแทนเจ้าหน้าที่รัฐภายใน 3 ปี
นายสุรพงษ์ เจียสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรรายย่อยมีการรวมกันผลิตสินค้าการเกษตร การบริหารจัดการ และการตลาด ร่วมกัน ซึ่งจะทำให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิต เพื่อผลผลิต และแข่งขันตลาดได้ ภายใต้การสนับสนุนและบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตามแนวประชารัฐ
ในการนี้ สศก. ได้ติดตามผลการดำเนินงานโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ รอบ 9 เดือน (ณ 30 มิถุนายน 2559) โดยสัมภาษณ์เกษตรกร 729 ราย 15 จังหวัด พบว่า ได้ดำเนินการในพื้นที่เป้าหมาย 76 จังหวัด พื้นที่ 1.34 ล้านไร่ เกษตรกรเข้าร่วม 85,000 ราย ซึ่งในขณะนี้ ได้มีการบูรณาการร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน เป็นแปลงใหญ่ประชารัฐ 512 แปลงจำนวน 31 ชนิดสินค้า มีหน่วยงานต่างๆ ร่วมบูรณาการภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 15 หน่วยงาน หน่วยงานภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงกลาโหม กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น
ด้านนางสาวจริยา สุทธิไชยา รองเลขาธิการ สศก. กล่าวเสริมว่า นอกจากนี้ เกษตรกรกว่าร้อยละ 90 มีการรวมกลุ่มและได้รับการถ่ายทอดความรู้ด้านการพัฒนาการเกษตร ได้แก่ การลดต้นทุน การเพิ่มผลผลิต การเพิ่มคุณภาพผลผลิต การบริหารจัดการ และการตลาด โดยขณะนี้มีเกษตรกรได้นำความรู้ไปปฏิบัติตาม เช่น การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน การใช้พันธุ์ดี การรวมกลุ่มซื้อปัจจัยการผลิตได้ในราคาถูกลง เป็นต้น ซึ่งเกษตรกรเห็นว่าหลังจากการนำความรู้ดังกล่าวไปปฏิบัติตามแล้วต้นทุนการผลิตลดลง ในขณะที่ผลผลิตต่อหน่วยเพิ่มขึ้น ทำให้มีรายได้ในครัวเรือนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการร้อยละ 84 มีความพึงพอใจต่อโครงการในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เพราะช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และได้รับการถ่ายทอดความรู้โครงการ
สำหรับการดำเนินงานระยะต่อไป กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีเป้าหมายจะดำเนินการในปี 2559 ให้ครบ 650 แปลง พร้อมสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ระยะเวลา 3 ปี ให้เกษตรกรนำไปพัฒนาในพื้นที่ตนเอง เช่น แหล่งน้ำ เงินลงทุนในการเกษตร และอีก 3 ปีข้างหน้าจะพัฒนาเกษตรกรให้สามารถเป็นผู้จัดการแปลงแทนเจ้าหน้าที่รัฐ ส่งผลให้เกษตรกรสามารถสร้างรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างยั่งยืน รองเลขาธิการ กล่าว
ข่าวเด่น