นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชน เดินทางเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 26 - 28 กรกฎาคม 2559 เพื่อพบปะหารือ และขยายลู่ทางการค้าสินค้าไทย รวมถึงกระชับความสัมพันธ์ทางการค้ากับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนสิงคโปร์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สิงคโปร์เป็นตลาดส่งออกข้าวคุณภาพดีที่สำคัญของไทย โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิไทย ในแต่ละปีสิงคโปร์มีการนำเข้าข้าวจากไทย เฉลี่ยปีละ 130,000 ตัน โดยในปี 2559 (มกราคม – พฤษภาคม) ไทยสามารถครองส่วนแบ่งตลาดข้าวเป็นอันดับ 1 ในสิงคโปร์ (ร้อยละ 37) เพราะข้าวไทยสามารถแข่งขันด้านราคากับข้าวจากประเทศคู่แข่ง เช่น อินเดีย และเวียดนาม ได้เป็นอย่างดี จากเดิมในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ข้าวไทยครองส่วนแบ่งเป็นอันดับ 2 รองจากข้าวอินเดีย นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังเป็นแหล่งซื้อขายข้าวที่สำคัญของโลก โดยมีบริษัทผู้ค้าข้าว (Traders) ต่างชาติประกอบธุรกิจซื้อขายข้าว ซึ่งบริษัท Traders เหล่านี้ เป็นตัวกลางสำคัญในการขับเคลื่อนการค้าข้าวของโลก โดยส่งข้าวไปจำหน่ายให้แก่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคแอฟริกาและตะวันออกกลาง ซึ่งการเดินทางเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์ในครั้งนี้ ได้กำหนดกิจกรรมสำคัญ ประกอบด้วย
(1) การเข้าพบกับรัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม (MTI) ของสิงคโปร์ เพื่อหารือถึงแนวทางส่งเสริมและขยายตลาดสินค้าไทยโดยเฉพาะสินค้าเกษตรและสินค้าอาหารไทยในสิงคโปร์
ความร่วมมือในด้านต่างๆ รวมทั้งการจัดประชุมระดับรัฐมนตรีเศรษฐกิจครั้งที่ 5 (Singapore - Thailand Enhanced Relation : STEER) ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในช่วงปลายเดือน พฤศจิกายน 2559 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์
(2) การพบหารือกลุ่มผู้ค้าข้าว (Traders) และผู้นำเข้าข้าว (Importers) เพื่อกระชับความสัมพันธ์ หารือแนวทางการขยายตลาดข้าวไทย และได้รับทราบข้อมูลสถานการณ์การค้าข้าวในสิงคโปร์และภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายการส่งออกข้าวของไทยและการขยายตลาดข้าวไทย รวมทั้งประชาสัมพันธ์ข้าวคุณลักษณะพิเศษของไทยอื่นๆ อาทิ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวหอมนิล และข้าวสังข์หยด เป็นต้น
(3) การเยี่ยมชมการดำเนินงานของห้าง NTUC Fair Price ซึ่งเป็นแหล่งกระจายสินค้าอุปโภคและบริโภคขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ของสิงคโปร์ เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าไทยให้เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เชื่อมั่นว่าการเดินทางเยือนสิงคโปร์ในครั้งนี้ จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกันให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถขยายโอกาสทางการค้าและทำให้ส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยและสินค้าอื่นๆ ในสิงคโปร์เพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอน
.jpg)
ข่าวเด่น