ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ผลจัดเก็บรายได้รัฐบาล 9 เดือน ปีงบฯ59อยู่ที่ 1.79 ล้านลบ.สูงกว่าปีก่อน 10%


 


นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 (ตุลาคม 2558 – มิถุนายน 2559) จัดเก็บได้ 1,793,590 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 78,456 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.6 และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 10.0 โดยสาเหตุหลักมาจากการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 และ 1800 MHz (4G) จำนวน 48,242 ล้านบาท นอกจากนี้ การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการ 11,874 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.1 และการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และภาษีเบียร์ สูงกว่าประมาณการ 7,616 6,091 และ 5,755 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.1 8.7 และ 9.3 ตามลำดับ

นายกฤษฎาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศเดือนมิถุนายน 2559 สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.3 และในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 จัดเก็บได้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.2 สะท้อนถึงการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการบริโภคในประเทศ นอกจากนี้ การจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 7.1 สะท้อนถึงการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา”


ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิเดือนมิถุนายน 2559และในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 (ตุลาคม 2558 – มิถุนายน 2559) 

ในเดือนมิถุนายน 2559 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 236,080 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ16,275 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.4 (ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.1) ส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1,793,590 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 78,456 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.6 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 10.0) 
เดือนมิถุนายน 2559    รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 236,080 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 16,275 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.4 (ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.1) โดยเป็นการจัดเก็บรายได้ของส่วนราชการอื่นสูงกว่าประมาณการจำนวน 9,108 ล้านบาท หรือร้อยละ 114.0 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 25.0) เนื่องจาก  มีการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรทัศน์ในระบบดิจิทัลงวดที่ 3 จำนวน 6,061 ล้านบาท เป็นสำคัญ นอกจากนี้ การจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงกว่าประมาณการ 6,669 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.9 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 5.9) และการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์สูงกว่าประมาณการ 1,648 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.5 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 44.5)
สำหรับภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 3,545 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.3 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 6.0) เป็นผลจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการนำเข้าต่ำกว่าประมาณการ 3,530 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.7 (แต่สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 2.4) อย่างไรก็ดี ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคในประเทศจัดเก็บได้ใกล้เคียงกับประมาณการ และสูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.3 สะท้อนถึงการบริโภคในประเทศที่ยังคงขยายตัวได้ดี
2. ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 (ตุลาคม 2558 – มิถุนายน 2559)
รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1,793,590 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 78,456 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.6 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 10.0) เนื่องจากมีรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 และ 1800 MHz (4G) เป็นสำคัญ
ผลการจัดเก็บรายได้ตามหน่วยงานจัดเก็บสรุปได้ ดังนี้


กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวม 1,263,883 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 92,191 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.8 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 1.0) โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ 

ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 40,517 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.0(สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 1.1) โดยภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 33,227 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.1 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.8) เนื่องจากมูลค่าการนำเข้าที่หดตัวอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง ขณะที่ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการบริโภคภายในประเทศจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 7,290 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.1 (แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 4.2)

ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 40,401 ล้านบาท หรือร้อยละ 47.9 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 44.8) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ (เหลว) ลดลง ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีกำไรเพื่อชำระภาษีลดลง
อย่างไรก็ดี ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 7,616 ล้านบาท 
หรือร้อยละ 3.1 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 5.9) โดยภาษีหัก ณ ที่จ่ายภาคเอกชนจากเงินเดือน (ภ.ง.ด. 1) 
และอสังหาริมทรัพย์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ เนื่องจากการขยายตัวของฐานเงินเดือนที่สูงกว่าประมาณการและผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา


กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 392,111 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 17,647 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.7 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 18.2) โดยภาษีสรรพสามิตรถยนต์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 6,091 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.7 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 23.6) เนื่องจากภาษีสรรพสามิตรถยนต์เฉลี่ยต่อคันเพิ่มขึ้นจากการปรับโครงสร้างอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป ภาษีเบียร์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 5,755 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.3 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.8) และภาษีน้ำมันจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 4,902 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.9 (สูงกว่า ช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 41.3) เนื่องจากมีการปรับขึ้นอัตราภาษีน้ำมันดีเซลและเบนซินจากลิตรละ 4.95  และ 5.60 บาท เป็นลิตรละ 5.35 และ 6.0 บาท ตามลำดับ ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2559

กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 84,973 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 5,027 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.6 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 1.5) เนื่องจากได้รับผลกระทบของการปรับโครงสร้างอัตราภาษีศุลกากรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและมูลค่าการนำเข้าที่ยังคงหดตัว โดยมูลค่าการนำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐและเงินบาทในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 หดตัวร้อยละ 11.2 และร้อยละ 2.9 ตามลำดับ ทั้งนี้ สินค้าที่จัดเก็บอากรขาเข้าได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ยานบกและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ประกอบ เครื่องจักรและเครื่องใช้กล ของทำด้วยเหล็กหรือเหล็กกล้า และพลาสติก
รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้รวม 102,385 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 11,874 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.1 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 7.7) ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน การประปานครหลวง และกองทุนรวมวายุภักษ์

หน่วยงานอื่น จัดเก็บรายได้รวม 242,922 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 127,346        ล้านบาท หรือร้อยละ 110.2 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 74.7) เนื่องจากการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 และ 1800 MHz (4G) ประมาณ 48,242 ล้านบาท การรับรู้เงินส่วนเกินจากการจำหน่ายพันธบัตรเป็นรายได้จำนวน 38,996 ล้านบาท การชำระภาษีการพนันในส่วนของสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัวของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวน 11,982 ล้านบาท และการนำส่งเงินสภาพคล่องส่วนเกินของกองทุนหมุนเวียน 10,634 ล้านบาท ตามลำดับ 

สำหรับกรมธนารักษ์จัดเก็บรายได้รวม 5,391 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 467 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.5 (สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 10.7)

 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 27 ก.ค. 2559 เวลา : 17:02:07

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:41 am