ครม.อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำสำนักงานในพื้นที่พิเศษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการเสนอ และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาและดำเนินการต่อไป เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2559 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำสำนักงานในพื้นที่พิเศษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาและดำเนินการต่อไปโดยร่างพระราชกฤษฎีกาฯ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิได้รับเงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำสำนักงานในพื้นที่พิเศษจากคนละ 1,000 บาทต่อเดือน เป็น 2,000 บาทต่อเดือน
สำหรับเงินสวัสดิการดังกล่าวเป็นเงินที่ภาครัฐจ่ายให้กับข้าราชการหรือลูกจ้างประจำที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ ที่มีความยากลำบากด้านการคมนาคม มีความขาดแคลนด้านสาธารณูปโภค สาธารณูปการ หรือปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีพหรือมีความเสี่ยงภัย เช่น พื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์สู้รบ พื้นที่ลำเลียงยาเสพติด เป็นต้น ซึ่งพระราชกฤษฎีกาฯ ได้กำหนดให้ผู้มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการดังกล่าวในอัตราคนละ 1,000 บาทต่อเดือน มาเป็นระยะเวลานานถึง 14 ปีแล้ว (ประกาศใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2545) เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป
อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ในร่างพระราชกฤษฎีกาฯ ได้กำหนดให้มีคณะกรรมการพิจารณากำหนดสำนักงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษ และคณะกรรมการพิจารณากำหนดสำนักงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษระดับจังหวัด องค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงานยิ่งขึ้น ซึ่งแต่เดิมต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการฯ เป็นรายกรณี
“กรมบัญชีกลางได้ปรับปรุงสวัสดิการประเภทอื่นๆ มาอย่างต่อเนื่อง ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งการปรับเพิ่มเงินสวัสดิการดังกล่าว มีสำนักงานที่ได้รับการประกาศกำหนดเป็นสำนักงานในพื้นที่พิเศษ ประมาณ 1,670 แห่ง และจะใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 147 ล้านบาท” นายมนัส กล่าว
ข่าวเด่น