ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
สศค.เผยศก.ไทยไตรมาส2/59 สัญญาณดีขึ้นโดยเฉพาะการใช้จ่ายในปท.


 


เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 ปี 2559 สะท้อนสัญญาณดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยเฉพาะการใช้จ่ายภายในประเทศที่ได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากมาตรการภาครัฐและการใช้จ่ายรัฐบาลที่เร่งขึ้น แม้ว่าอุปสงค์จากต่างประเทศผ่านการส่งออกสินค้าหดตัวลง สำหรับเศรษฐกิจด้านอุปทานปรับตัวดีขึ้นเช่นกันจากภาคอุตสาหกรรมที่กลับมาขยายตัวเป็นบวกและภาคการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนมิถุนายน และไตรมาสที่ 2 ปี 2559 ว่า“เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 ปี 2559 สะท้อนสัญญาณดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยเฉพาะการใช้จ่ายภายในประเทศที่ได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากมาตรการภาครัฐและการใช้จ่ายรัฐบาลที่เร่งขึ้น แม้ว่าอุปสงค์จากต่างประเทศผ่านการส่งออกสินค้าหดตัวลง สำหรับเศรษฐกิจด้านอุปทานปรับตัวดีขึ้นเช่นกันจากภาคอุตสาหกรรมที่กลับมาขยายตัวเป็นบวกและภาคการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง” โดยมีรายละเอียด สรุปได้ดังนี้

การบริโภคภาคเอกชนในไตรมาสที่ 2 ปี 2559 มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวที่ร้อยละ 3.7 ต่อปี จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากฐานการใช้จ่ายภายในประเทศและการนำเข้าที่ขยายตัวร้อยละ 5.4 และ 1.0 ต่อปี ตามลำดับ สอดคล้องกับปริมาณนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคที่ขยายตัวร้อยละ 3.4 ต่อปี สำหรับปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์ขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 7.9  ต่อปี โดยเป็นการขยายตัวได้ดีทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และในเขตภูมิภาค เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่ปรับตัวดีขึ้นตามราคาสินค้าเกษตรซึ่งสอดคล้องกับรายได้เกษตรกรที่แท้จริงที่กลับมาขยายตัวร้อยละ 2.2 ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวม ปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ระดับ 61.1 เนื่องจากผู้บริโภคยังมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบต่อการสถานการณ์การส่งออกของไทย

การลงทุนภาคเอกชนในภาพรวมยังทรงตัว โดยการลงทุนในหมวดก่อสร้าง แม้ว่าภาษีการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสที่ 2 ปี 2559 ขยายตัวร้อยละ 11.5 ต่อปี แต่ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศยังหดตัวร้อยละ -1.6 ต่อปี สำหรับการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สำหรับการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณนำเข้าสินค้าทุนยังคงหดตัวอยู่ที่ร้อยละ -11.6 ต่อปี และเมื่อหักสินค้าพิเศษ (เครื่องบิน เรือ และรถไฟ) พบว่า หดตัวเช่นกันที่ร้อยละ -5.1 ต่อปี

สถานการณ์ด้านการคลังในไตรมาสที่ 2 ปี 2559 (ไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2559) ยังสะท้อนบทบาทนโยบายการคลังในการสนับสนุนเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้จ่ายของรัฐบาลจากการเร่งรัดการลงทุนของรัฐบาลที่ขยายตัวในระดับสูง โดยการเบิกจ่ายงบประมาณรวมสามารถเบิกจ่ายได้จำนวน 677.8 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 19.0 ต่อปี ขณะที่การเบิกจ่ายจากงบประมาณปีปัจจุบันเบิกจ่ายได้จำนวน 638.8 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 20.7 ต่อปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากรายจ่ายลงทุนที่เบิกจ่ายได้ 101.5 พันล้านบาท ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 31.7 ต่อปี สำหรับการจัดเก็บรายได้รัฐบาล พบว่า รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิ (หลังหักจัดสรรให้ อปท.) ได้จำนวน 715.1 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 9.6 ต่อปี ขณะที่ดุลเงินงบประมาณเกินดุลจำนวน 69.3 พันล้านบาท

 
ด้านอุปสงค์จากต่างประเทศผ่านการส่งออกสินค้าในไตรมาสที่ 2 ปี 2559 กลับมาหดตัวอยู่ที่ร้อยละ -4.1 ต่อปี จากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 0.9 ต่อปี เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังเป็นไปอย่างเปราะบางและมีความไม่แน่นอนสูง อย่างไรก็ดี สินค้าส่งออกที่ขยายตัวได้ดีในไตรมาสที่ 2 ปี 2559 ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ฯ เครื่องคอมพิวเตอร์ อาหารทะเลกระป๋องฯ และการส่งออกรถยนต์และส่วนประกอบ ขณะที่ตลาดที่ยังส่งออกได้ดีได้แก่ ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา และทวีปออสเตรเลีย เป็นสำคัญ

 เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทานในไตรมาสที่ 2 ปี 2559 ปรับตัวดีขึ้นจากภาคอุตสาหกรรมที่กลับมาขยายตัวเป็นบวกและภาคการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจาก ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ในไตรมาสที่ 2 ปี 2559 กลับมาขยายตัวที่ร้อยละ 1.5 ต่อปี จากไตรมาสก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -0.9 ต่อปี โดยการขยายตัวมาจากการผลิตในหมวดยานยนต์ที่มีการผลิตเพื่อตอบสนองการจำหน่ายในประเทศและการส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้น และหมวดเครื่องปรับอากาศ และผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ สำหรับ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยในไตรมาสที่ 2 ปี 2559 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศทั้งสิ้น 7.55 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 8.2 ต่อปี โดยเป็นนักท่องเที่ยวที่ยังคงขยายตัวได้ดีจาก จีน กลุ่มประเทศ CLMV เกาหลีใต้ อินเดีย ฮ่องกง รัสเซีย และสหรัฐเมริกา เป็นหลัก ขณะที่ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร หดตัวลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ -1.2 ต่อปี จากไตรมาสก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -5.7 ต่อปี โดยเป็นการหดตัวจากผลผลิตในหมวดพืชผลสำคัญเป็นหลักโดยเฉพาะผลผลิตข้าวเปลือกและปาล์มน้ำมัน ตามปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลให้เกษตรกรบางส่วนปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยชนิดอื่นแทน

เสถียรภาพเศรษฐกิจไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศในไตรมาสที่ 2 ปี 2559 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.3 และ 0.8 ต่อปี ตามลำดับ สำหรับอัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำเช่นกันที่ร้อยละ 1.1 ของกำลังแรงงานรวม ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2559 อยู่ที่ระดับร้อยละ 43.4 ถือว่ายังอยู่ภายใต้กรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ไม่เกินร้อยละ 60.0 สำหรับเสถียรภาพภายนอกประเทศยังอยู่ในระดับมั่นคงและสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกสะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ปี 2559 อยู่ที่ 178.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 3.4 เท่าเมื่อเทียบกับหนี้ต่างประเทศระยะสั้น





 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 28 ก.ค. 2559 เวลา : 14:05:28

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:16 am