พาณิชย์ใช้ยโสธรโมเดลนำร่องเชื่อมโยงผู้บริโภคสู่วิถีเกษตรอินทรีย์พร้อมปลุกกระแสการท่องเที่ยวเชิงเกษตร
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีนโยบาย ให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศส่งเสริมการเพาะปลูกในระบบเกษตรอินทรีย์ที่มีความปลอดภัยทั้งกับตัวเกษตรกร และผู้บริโภค อีกทั้งยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ ต่อยอดแนวคิดไปสู่ผลิตผลทางการเกษตรอื่นๆ เพื่อยกระดับชีวิตที่ดีให้แก่เกษตรกรอย่างยั่งยืน รวมทั้งรณรงค์และเชิญชวนให้ประชาชนหันมาบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์เพิ่มมากขึ้นเพื่อสุขภาพพลานามัยที่ดี โดยขณะนี้ ได้รับรายงานว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดยโสธร ได้จัดทำโครงการ “ชวนกันไปทำนา” จากเมืองสู่...ท้องนา จากต้นกล้า...สู่เมล็ดข้าว เพื่อรณรงค์ให้เกิดการผลิตและบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์และเพิ่มช่องทางการตลาด รวมทั้งเชื่อมโยงสู่การท่องเที่ยวเชิงเกษตร (agro-tourism) ก่อให้เกิดรายได้ที่มั่นคงเข้าสู่ท้องถิ่น
กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดให้จังหวัดยโสธรนำร่องในการเป็นเมืองเกษตรอินทรีย์ต้นแบบของประเทศ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดยโสธรจึงริเริ่มทำโครงการ “ชวนกันไปทำนา” จากเมืองสู่...ท้องนา จากต้นกล้า...สู่เมล็ดข้าว เพื่อรณรงค์ให้เกิดการผลิตและบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์และเพิ่มช่องทางการตลาด รวมทั้งส่งเสริม การท่องเที่ยวเชิงเกษตร (agro-tourism) ของจังหวัด และมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยให้คนเดินทางมาเรียนรู้แสวงหาประสบการณ์การทำเกษตรอินทรีย์ผสมผสานการท่องเที่ยวภายในจังหวัด อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรอินทรีย์ของจังหวัดให้แพร่กระจายออกไปถึงผู้บริโภคภายในประเทศ ทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคงแน่นอนจากการขายผลผลิตล่วงหน้าอีกด้วย
ขณะนี้อยู่ในระหว่างการประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ โดยสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการเป็นรายบุคคล กลุ่มบุคคล หรือบริษัท ห้างร้าน เพื่อซื้อข้าวจากชาวนา ไม่น้อยกว่า 1 ไร่ หรือจำนวนประมาณ 200 กิโลกรัมข้าวสาร ในราคาแยกตามประเภทข้าว คือ (1) ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ไร่ละ 15,000 บาท (2) ข้าวหอมมะลิระยะปรับเปลี่ยนเป็นข้าวอินทรีย์ปีที่ 2 ไร่ละ 13,000 บาท และ(3) ข้าวหอมมะลิระยะปรับเปลี่ยนเป็นข้าวอินทรีย์ปีที่ 1 ไร่ละ 12,000 บาท หลังจากนั้น จะจัดให้ผู้เข้าร่วมโครงการเข้าเยี่ยมชมแปลงนาที่ตนเองต้องการเป็นระยะๆ จนถึงช่วงเก็บเกี่ยวเสมือนเป็นแปลงนาของตนเอง และเชิญชวนนักท่องเที่ยวต่างๆ มาเยี่ยมชมกิจกรรม เยี่ยมชมแปลงนา และประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
ผลที่คาดว่าจะได้รับ คือ ผู้เข้าร่วมโครงการมีโอกาสมาเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่กับการทำเกษตรอินทรีย์ และได้มีโอกาสมาสัมผัสวิถีชีวิตของเมืองเล็กๆ ริมลำน้ำชี รวมถึงได้บริโภคข้าวที่มีคุณภาพ ปลอดภัยที่ปลูกด้วยมือของตนเองหรือโดยเกษตรกรที่เลือกสรรแล้ว และที่สำคัญผู้เข้าร่วมโครงการจะมีส่วนร่วมกันทำให้เกษตรกร ผู้ทำการเกษตรอินทรีย์มีรายได้ที่มั่นคงขึ้น และสามารถเพิ่มพื้นที่การทำเกษตรอินทรีย์อีกด้วย สำหรับผู้สนใจ เข้าร่วมโครงการสามารถสมัครได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดยโสธร (โทร 04558 6063) ตั้งแต่ 25 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป
ข่าวเด่น