ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 2 ส.ค. มีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ 1. รับทราบการดำเนินมาตรการสินเชื่อประชารัฐเพื่อประชาชนและมาตรการประชารัฐเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินประชาชนภายใต้นโยบายรัฐบาลของธนาคารออมสิน2. เห็นชอบการดำเนินโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาอาชีพและสร้างความรู้ทางการเงิน แก่ผู้ประกอบอาชีพรายย่อยในชุมชนเมือง
สาระสำคัญของเรื่อง กระทรวงการคลัง รายงานว่า ธนาคารออมสินได้เสนอมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยในชุมชนเมืองตามแนวทางประชารัฐ ประกอบด้วย (1) มาตรการสินเชื่อประชารัฐเพื่อประชาชน (2) มาตรการประชารัฐเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินประชาชนภายใต้นโยบายรัฐบาลและ (3) โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาอาชีพและสร้างความรู้ทางการเงินแก่ผู้ประกอบอาชีพรายย่อยในชุมชนเมือง โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. มาตรการสินเชื่อประชารัฐเพื่อประชาชน มีหลักเกณฑ์ ดังนี้
คุณสมบัติผู้กู้: เป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อยทั่วไป เช่น พ่อค้า แม่ค้า ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ผู้ให้บริการรถรับจ้างสาธารณะ กลุ่มแม่บ้านที่รวมตัวกันเป็นวิสาหกิจชุมชน หรือผู้รับจ้างให้บริการทั่วไป ที่มีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ต้องไม่เกิน 65 ปี และมีถิ่นที่อยู่แน่นอนสามารถติดต่อได้
วัตถุประสงค์การกู้ : เพื่อเป็นเงินทุนหรือทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ แก้ปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนในการดำรงชีพ และชำระหนี้สินอื่น ๆ รวมทั้งหนี้นอกระบบ
จำนวนเงินให้กู้ : ไม่เกินรายละ 50,000 บาท เมื่อรวมจำนวนเงินกู้ของสินเชื่อโครงการธนาคารประชาชนทุกประเภทกับจำนวนเงินที่ขอกู้ในครั้งนี้ ต้องไม่เกิน 200,000 บาทต่อราย
ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ : 5 ปี ( 60 งวด)
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ : ปีที่ 1 ร้อยละ 0 ต่อเดือน และในปีที่ 2 – 5 ร้อยละ 1 ต่อเดือน กรณีที่ผิดนัดชำระหนี้ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยและดอกเบี้ยปรับในอัตราที่ธนาคารกำหนด
หลักประกันการกู้เงิน : ใช้บุคคลค้ำประกัน หลักทรัพย์เป็นหลักประกันหรือค้ำประกันโดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม
ระยะเวลาโครงการ : ยื่นขอสินเชื่อภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2559
2. มาตรการประชารัฐเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินประชาชนภายใต้นโยบายรัฐบาล
ธนาคารออมสินได้ออกมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนลูกค้าธนาคารที่ใช้บริการสินเชื่อและอยู่ในระหว่างการผ่อนชำระคืนที่มีความประสงค์จะขอพักชำระหนี้ชั่วคราวหรือขอขยายระยะเวลาชำระหนี้เพื่อลดภาระรายจ่ายตามหลักเกณฑ์ ดังนี้
2.1 พักชำระเงินต้นและชำระเฉพาะดอกเบี้ยได้นานสูงสุดเป็นระยะเวลา 3 ปี
2.2 ขยายระยะเวลาชำระหนี้เพิ่มได้เท่ากับระยะเวลาพักชำระเงินต้นหรือขยายระยะเวลาการชำระหนี้ได้ 2 เท่าของระยะเวลาคงเหลือตามสัญญาเงินกู้ โดยมีระยะเวลาที่ขยายการชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 20 ปี ตามเงื่อนไขของสินเชื่อแต่ละประเภท
2.3 ติดต่อขอเข้าร่วมมาตรการภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2559
3. โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาอาชีพและสร้างความรู้ทางการเงินแก่ผู้ประกอบอาชีพรายย่อยในชุมชนเมือง มีหลักเกณฑ์ ดังนี้
วัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาอาชีพและการให้ความรู้ทางการเงิน ส่งเสริมการออมและการสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชนฐานรากตามแนวทางประชารัฐ
กลุ่มเป้าหมาย ผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรือผู้ที่สนในทุกจังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 150,000 ครอบครัว ๆ ละ 1 คน จัดอบรม จำนวน 1,000 รุ่น รุ่นละ 150 คน ใช้เวลาอบรม 1 วัน
คุณสมบัติผู้เข้าอบรม อายุ 15 ปีขึ้นไป มีสัญชาติไทย เป็นตัวแทนครอบครัวของกลุ่มเป้าหมาย และสามารถเข้าอบรมได้เต็มเวลาตามที่ธนาคารกำหนด
ระยะเวลาโครงการ กรกฎาคม – ธันวาคม 2559
หลักสูตรการอบรม (1) การให้ความรู้ทางการเงินแก่บุคคลในครอบครัวของประชาชนฐานราก (2) การพัฒนาและส่งเสริมอาชีพ หัวข้อ “เทคนิคการขาย/การบริการเพื่อเพิ่มรายได้”
ข่าวเด่น