ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติเป็นเอกฉันท์ 9-0 เสียง ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อ 4 ส.ค. และถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 7 ปี นับตั้งแต่ที่ BoE ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% จากระดับ 1.00% สู่ระดับ 0.50% ในการประชุมเดือนมี.ค.2009 เนื่องจากคาดว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะซบเซาทั้งปี 2016 และการขยายตัวในปีหน้าจะเป็นไปอย่างอ่อนแอ หลังอังกฤษถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู)
นอกจากนี้ BoE ประกาศฟื้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวงเงิน 6 หมื่นล้านปอนด์/เดือน ทำให้วงเงินรวมในโครงการอยู่ที่ระดับ 4.35 แสนล้านปอนด์ โดยก่อนหน้านี้ BoE ได้อนุมัติโครงการดังกล่าวในวงเงิน 3.75 แสนล้านปอนด์ในปี 2009 ท่ามกลางวิกฤตการเงินทั่วโลก และได้ปิดโครงการลงในปี 2012
BoE ยังได้ประกาศใช้มาตรการใหม่ 2 มาตรการ ด้วยการเข้าซื้อหุ้นกู้คุณภาพดี มูลค่า 1 หมื่นล้านปอนด์ เป็นเวลา 18 เดือน และอีกมาตรการ 1 แสนล้านปอนด์ เพื่อให้มั่นใจว่าการลดดอกเบี้ยครั้งนี้จะทำให้มีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำไปถึงมือผู้บริโภคและภาคเอกชน
BoE คงคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้(2016)ไว้ที่ระดับ 2.0% และปรับลดคาดการณ์การขยายตัวในปี2017 จากระดับ 2.3% สู่ระดับ 0.8% โดยระบุถึงความไม่แน่นอนหลังการทำประชามติออกจากสหภาพยุโรป รวมทั้งปรับลดคาดการณ์การขยายตัวในปี 2018 จากระดับ 2.3% สู่ระดับ 1.8%
ข่าวเด่น