หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 9 ส.ค. 2559ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มจากการคาดการณ์ข้อตกลงการคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกในการประชุมที่แอลจีเรีย
(+) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังนักลงทุนได้คาดการณ์ว่าประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบ หรือ โอเปกจะมีการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงในการคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มเอาไว้ เพื่อรักษาสมดุลของราคาน้ำมันดิบ ในการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของชาติสมาชิกของกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตน้ำมันดิบนอกกลุ่ม อย่างรัสเซีย หลังจากงานสัมมนาพลังงานนานาชาติ (International Energy Forum) ในช่วง 26-28 กันยายน 2559 นี้ ทั้งนี้ เวเนซูเอล่า เอกวาดอร์ และคูเวตเป็น 3 ชาติสมาชิกสำคัญที่ต้องการผลักดันให้เกิดการเจรจาเพื่อคงระดับการผลิตน้ำมันดิบเอาไว้ หลังการเจรจาในเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้ประสบความล้มเหลว
(-) อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีพลังงานของรัสเซียได้ออกมาเปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบในขณะนี้ยังไม่อยู่ในระดับที่ควรที่จะเข้าไปแทรกแซง แต่ทางการรัสเซียพร้อมที่จะเปิดการเจรจาอีกครั้งกับกลุ่มประเทศผู้ผลิตในกลุ่มโอเปก เพื่อคงระดับการผลิตน้ำมันดิบ
(-) ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดันจากจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 7 แท่นขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 381 แท่นตามรายงานของ Baker Hughes ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ เป็นสัปดาห์ที่ 6ติดต่อกันแล้ว
(-) นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากรายงานการส่งออกน้ำมันของจีนในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 52.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ไปแตะที่ระดับ 4.57 ล้านตัน ในขณะที่การนำเข้าน้ำมันของจีนนั้นได้ปรับตัวลดลงร้อยละ 13 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา มาอยู่ที่ระดับ 2.08 ล้านตัน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเล็กน้อย หลังจากได้รับแรงกดดันจากอุปทานน้ำมันเบนซินที่ยังคงล้นตลาดในภูมิภาจากการเร่งผลิตน้ำมันเบนซินจากโรงกลั่นในภูมิภาคเอเชียเหนือ ประกอบกับอุปสงค์ที่ยังคงทรงตัวอยู่
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเล็กน้อย ท่ามกลางอุปสงค์น้ำมันดีเซลในภูมิภาคที่อ่อนตัว รวมไปถึงการทำกำไรระยะสั้นจากฝั่งตะวันออกไปยังฝั่งตะวันตกที่ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ราคาน้ำมันดีเซลยังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้นจากประเทศไต้หวันอีกด้วย
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ40-45เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 41-46 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดยังไม่คลี่คลายหลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน เนื่องจากปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับสูง
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแตะระดับสูงสุดในรอบประวัติการณ์ในเดือน ก.ค. ที่ระดับ 33.41 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังอิรักและไนจีเรียสามารถเพิ่มปริมาณการส่งออก และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังล่าสุดบริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียได้เจรจากับหน่วยรักษาความปลอดภัยของประเทศในการเจรจาเพื่อเปิดท่าส่งออกน้ำดิบสำคัญของประเทศ Es Sider และ Ras Lanuf และ Zueitina ในเร็วนี้
ภาวะราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ เพิ่มปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุด Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ณ วันที่5 ส.ค. ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6ติดต่อกัน สู่ระดับ 381แท่น
โดย หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ ประจำวันที่ 9 ส.ค. 2559
ข่าวเด่น