บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) แจ้งไตรมาส 2/59 โชว์ กำไรสุทธิ 29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 107% รายได้รวมแตะ 1,059 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีแรกกวาดยอดขายถ่านหินแตะ 1 ล้านตัน จากการจำหน่ายถ่านหินในประเทศเพิ่มขึ้น ส่งออกในกลุ่มประเทศอาเซียนพิ่มขึ้น และ สามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้าน “ พนม ควรสถาพร ” กรรมการผู้จัดการ เผยกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง มุ่งทำการตลาดในประเทศกลุ่มอาเซียน มั่นใจทั้งปีมีปริมาณการขายถ่านหินได้ตามเป้า 2.2 ล้านตัน
นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้นำเข้าและจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2559 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 ว่า บริษัทมีรายได้ 1,059.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทมีรายได้รวม อยู่ที่ 970.67 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 29.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 27.99ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรก 2559 ของบริษัทมีรายได้รวม 2,000.12 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทมีรายได้รวม อยู่ที่ 2,341.39 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 43.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 25 ที่มีกำไรสุทธิ 34.54 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทควบคุมต้นทุนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการนำทรัพย์สินที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีปริมาณการจำหน่ายถ่านหินอยู่ที่ระดับ 1 ล้านตัน จากทั้งปีที่ตั้งเป้ายอดขายถ่านหินที่ระดับ 2.2 ล้านตัน
ทั้งนี้ สาเหตุที่บริษัทมีผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากแผนลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน รวมทั้งแผนการขยายตลาดในประเทศ ทำให้ปริมาณการขายถ่านหินในประเทศปรับตัวดีขึ้น โดยยอดขายตลาดในประเทศช่วง 1H59 อยู่ที่ 0.97 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากช่วง 1H58 ที่มียอดขายถ่านหินในประเทศอยู่ที่ 0.85 ล้านตัน รวมทั้งการเปิดตลาดใหม่ๆ ในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวจึงส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2559 ของบริษัทมีอัตราการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด
“ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2559 ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ จากกลยุทธ์ขยายตลาดในประเทศ โดยบริษัทยังคงมุ่งเน้นเรื่องคุณภาพของสินค้าและบริการ รวมทั้งการดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนต่างประเทศมีการขยายยอดขายในกลุ่มประเทศอาเซียนเพิ่มจากปีที่ผ่านมาตามความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น โดยในช่วงครึ่งปีหลัง ราคาถ่านหินโลกมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากซัพพลายที่หายไปทั้งจากในประเทศจีน รวมทั้งความต้องการใช้ถ่านหินที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มประเทศอาเซียน และ ประเทศอินเดีย” นายพนม กล่าว
นอกจากนี้ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) ยังได้กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง 2559 ว่า ยอดขายจากต่างประเทศจะเริ่มเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่าปริมาณการขายในปีนี้น่าจะเติบโตได้ตามเป้าคือปริมาณการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 10
ส่วนราคาถ่านหินในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 65 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน นั้นมองว่า ส่งผลบวกต่อธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2559 โดยคาดว่าตลาดในประเทศน่าจะทยอยรับรู้ราคาถ่านหินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ช้ากว่าตลาดโลกอย่างน้อย 2-3 เดือน ซึ่งเป็นไปตามกลไกของราคาถ่านหินอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามการทำตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียนนั้น ในระยะแรกจะต้องใช้เวลา และมีปริมาณการส่งออกในสัดส่วนที่ไม่สูงมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณเชิงบวก และมั่นใจว่าในอนาคตจะคำสั่งซื้อเพิ่มปริมาณมากขึ้น จึงเชื่อว่าปริมาณการขายของบริษัทโดยรวมจะเติบโตได้ใกล้เคียง ร้อยละ 10 เมื่อเทียบจากปีก่อน
ในส่วนของการประมูล สัญญาขายไฟฟ้าชีวมวล 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ บริษัทได้ยื่นเสนอขายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวลในพื้นที่จังหวัดชายแดนไปทั้งหมด 1 โครงการ ขนาด 9.9 เมกะวัตต์ (MW) ชื่อ บริษัท เปียน กรีน เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูก โดยในรอบแรกบริษัท เปียน กรีน เพาเวอร์ จำกัด ผ่านคุณสมบัติและข้อเสนอขายไฟฟ้าด้านเทคนิค สำหรับการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (ไม่รวมโครงการพลังงานแสงอาทิตย์) ในรูปแบบ Feed-in Tariff พ.ศ.2559 สำหรับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) ซึ่งบริษัทได้ยื่นประมูลไป 9.9 เมกะวัตต์ จากกำลังผลิตที่เปิดประมูล 36 เมกะวัตต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับบริษัท เปียน กรีน เพาเวอร์ จำกัด จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีบริษัท เอจีอี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด เป็นผู้ถือหุ้น 100% ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน)ในสัดส่วนการถือหุ้น 100 %
ข่าวเด่น