4 เขื่อนหลักเจ้าพระยา ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ไม่มากนัก เน้นเก็บกักน้ำและใช้ระบบชลประทานบริหารจัดการน้ำท่าให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกรให้มากที่สุด
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ทั่วประเทศว่า ล่าสุด(11 ส.ค. 59) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 33,185 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 47 ของความจุอ่างฯรวมกัน มีปริมาณน้ำใช้การได้ประมาณ 9,678 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนใหญ่ทั้งประเทศยังสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 37,000 ล้านลูกบาศก์เมตร
สำหรับสถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา(เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักฯ) ล่าสุด(11 ส.ค. 59) ยังคงมีน้ำไหลลงอ่างฯอย่างต่อเนื่อง แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ไม่มากนัก ส่งผลให้ปัจจุบันทั้ง 4 เขื่อน มีปริมาณน้ำรวมกัน 9,411 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 38 ของความจุอ่างฯรวมกัน มีน้ำใช้การได้ประมาณ 2,715 ล้านลูกบาศก์เมตร แนวโน้มสถานการณ์น้ำดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูฝนที่เหลือของปีนี้ กรมชลประทาน ได้ให้ทุกโครงการชลประทานทั่วประเทศ เน้นเก็บกักน้ำไว้ในอ่างเก็บน้ำต่างๆให้มากที่สุด โดยให้สอดคล้องกับปริมาณฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ เพื่อไม่ให้กระทบต่อพื้นที่ทางด้านท้ายเขื่อน พร้อมกันนี้ จะใช้อาคารและระบบชลประทาน ในการบริหารจัดการน้ำท่าให้เกิดประโยชน์แก่เกษตรกรให้มากที่สุดอีกด้วย
ข่าวเด่น