กรมพัฒน์ฯ เพิกถอนบริษัทนำเที่ยวกลางกรุง 3 ราย สิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลทันทีเหตุคนต่างชาติเข้าสวมตัวทำบัตรประชาชนคนไทยตบตาประกอบธุรกิจในไทยพร้อมขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ใช้ยาแรงลงดาบเพิกถอนบริษัทนำเที่ยวกลางกรุง 3 ราย ทำให้สิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลทันที เหตุคนต่างชาติเข้าสวมตัวทำบัตรประชาชนคนไทยตบตาเปิดบริษัทประกอบธุรกิจในไทย พร้อมขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่ให้ความช่วยเหลือสนับสนุน ไม่จบ..จับมือพันธมิตรกางแผนตรวจสอบธุรกิจกลุ่มเสี่ยงต่อเนื่อง หวังสร้างความเชื่อมั่นให้นักธุรกิจต่างชาติลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า “เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้มีคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวชื่อดัง 3 บริษัท หลังพบบุคคลต่างชาติสวมบัตรประจำตัวประชาชนชาวไทยดำเนินธุรกิจท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ส่งผลให้ทั้ง 3 บริษัท สิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลทันที ไม่สามารถประกอบธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคลได้อีกต่อไป”
“ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ร่วมกับกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยว กรมสรรพากร สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กองบังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และเจ้าหน้าที่ทหาร สนธิกำลังเข้าตรวจสอบบริษัทท่องเที่ยว คือ บริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด และ บริษัท ซินหยวน ทราเวล จำกัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมบุคคลต่างชาติที่สวมบัตรประจำตัวประชาชนของนายสมเกียรติ คงเจริญ ที่เสียชีวิตไปแล้ว เพื่อมาเปิดบริษัทนำเที่ยวภายในประเทศ โดยเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในบริษัททั้ง 2 บริษัทดังกล่าว ทั้งสามารถขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ได้แก่ นางธวัล แจ่มโชคชัย คนไทยซึ่งเป็นกรรมการบริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด ที่มีส่วนให้ความช่วยเหลือสนับสนุนกลุ่มบุคคลต่างชาติซึ่งเป็นคนจีนที่สวมบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย นายภูวดล สุขเจริญ และ นายธนากฤต รินรัตน์ ประกอบอาชีพเป็นมัคคุเทศก์ให้กับบริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด
“นอกจากนี้ กรมฯ ได้ขยายผลตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกทางทะเบียนนิติบุคคล พบว่า ชาวต่างชาติที่เข้าสวมบัตรประจำตัวประชาชนของนายธนากฤต รินรัตน์ มีชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นเพิ่มอีก 1 บริษัท คือ บริษัท เซี๊ยต้าเจริญ จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับท่องเที่ยว ได้แก่ จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม สมุนไพร จึงได้ทำการระงับการจดทะเบียน (การแก้ไข/เปลี่ยนแปลงข้อมูล) ของนิติบุคคลทั้ง 3 บริษัทที่มีบุคคลดังกล่าวเกี่ยวข้อง และระงับการออกหนังสือรับรองและสำเนาเอกสาร รวมทั้งเรียกตรวจสอบบัญชี”
“ล่าสุด กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือแจ้งการเพิกถอนบัตรประจำตัวประชาชนรายนายสมเกียรติ คงเจริญ นายธนากฤต รินรัตน์ และนายภูวดล สุขเจริญ มาให้ทราบ กรมฯ จึงได้ดำเนินการเพิกถอนการจดทะเบียนบริษัทจำนวน 3 บริษัท เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา ทำให้บริษัททั้ง 3 บริษัทสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลทันที ไม่สามารถประกอบธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคลได้อีกต่อไป รวมทั้งจะดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าวข้างต้นต่อไป”
“กรมฯ จะยังคงจับมือกับหน่วยงานพันธมิตรดังกล่าวข้างต้น ดำเนินการตรวจสอบธุรกิจกลุ่มเสี่ยง โดยการลงพื้นที่ตรวจสอบนอมินีธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงธุรกิจอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมทั้งสร้างธรรมาภิบาลให้เกิดแก่ธุรกิจและผู้ประกอบธุรกิจด้วย”
ทั้งนี้ กรมฯ ขอเตือนคนไทยที่ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนหรือถือหุ้นแทนชาวต่างชาติเพื่อให้คนต่างชาติสามารถเข้ามาประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย รวมทั้งคนต่างชาติที่ให้คนไทยถือหุ้นแทน รวมทั้งกรรมการบริษัทก็ต้องรับผิดด้วย ซึ่งจะมีความผิดโทษจำคุกไม่เกิน ๓ ปี หรือปรับตั้งแต่ ๑๐๐,๐๐๐ - ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวันอีกวันละ ๑๐,๐๐๐ – 50,000 บาท จนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน
ข่าวเด่น