บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2 ปี 2559 เติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยรายได้จากการให้บริการ และ EBITDA ซึ่งเพิ่มขึ้นในอัตราเลขสองหลักเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากความสำเร็จของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งมีรายได้จากการให้บริการเติบโตสูงที่สุดในอุตสาหกรรมติดต่อกันถึง 12 ไตรมาส และ EBITDA ที่เพิ่มขึ้นอย่างสูงถึงร้อยละ 87 จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า
กลุ่มทรู มีรายได้จากการให้บริการโดยรวมเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 20.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า เป็นจำนวน 21.9 พันล้านบาท ในไตรมาส 2 ปี 2559 จากรายได้ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในอัตราเลขสองหลักของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบริการบรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ตลูกค้าทั่วไป ส่งผลให้ EBITDA เพิ่มขึ้นอย่างสูงถึงร้อยละ41.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้าเป็น 6.3 พันล้านบาท ซึ่งไม่รวมกำไรจากการโอนเสาโทรคมนาคมใหม่เข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมดิจิทัล (DIF) ในปี 2558 เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบผลการดำเนินงานได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ทรูมูฟ เอช เดินหน้าเร่งขยายโครงข่าย 4G และ 2G ให้ครอบคลุมประชากรทั่วประเทศ เพิ่มเติมจากโครงข่าย 3G ที่ครอบคลุมแล้วกว่าร้อยละ 98 ของประชากรไทย จึงยังคงมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องดังกล่าว รวมถึงค่าตัดจำหน่ายใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ของกลุ่มทรู ที่ส่งผลให้ กลุ่มทรู รายงานผลขาดทุน จำนวน 0.4 พันล้านบาท
ในไตรมาส 2 ปี 2559
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “กลุ่มทรู ยังคงรายงานการเติบโตอย่างเข้มแข็งของรายได้และฐานผู้ใช้บริการ ได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมยังคงอยู่ในระดับที่สูง โดยเฉพาะธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งมีรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ในอัตราที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรมติดต่อกันถึง 12 ไตรมาส และยังเติบโตด้วยอัตราที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 31 ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ รายได้จากบริการบรอดแบนด์ สำหรับลูกค้าทั่วไป ยังคงเติบโตสูงในอัตราเลขสองหลัก โดยความสำเร็จเหล่านี้ เกิดจากความมุ่งมั่นของกลุ่มทรู ที่จะขยายโครงข่ายโทรคมนาคมสื่อสารทั้งมีสายและไร้สายที่มีคุณภาพให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมทั้งการนำเสนอสินค้าและบริการประสิทธิภาพสูง และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคดิจิทัลได้เป็นอย่างดี
กลุ่มทรู อยู่ในสถานะที่แข็งแกร่ง ด้วยการเป็นผู้นำด้านโครงข่าย คอนเทนต์ บริการด้านดิจิทัลต่างๆ และช่องทางในการขายทั่วประเทศ รวมถึงการเพิ่มความคุ้มค่าให้แก่สินค้าและบริการผ่านแคมเปญคอนเวอร์เจนซ์ ทำให้กลุ่มทรู มีความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการเติบโตอย่างเข้มแข็ง ขยายฐานลูกค้า รายได้ และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้สูงอย่างต่อเนื่อง”
ในระหว่างไตรมาส 2 ทรูมูฟ เอช ยังคงเสริมสร้างความแข็งแกร่งในเรื่องเครือข่ายประสิทธิภาพสูงและความครอบคลุมทั่วประเทศ การจัดแคมเปญดีไวซ์ร่วมกับค่าบริการที่น่าดึงดูดใจ รวมทั้งการผนึกพันธมิตรคอมเซเว่นผู้นำธุรกิจค้าปลีกไอที เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของช่องทางการขายอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีรายได้ที่เติบโตโดดเด่นทั้งในกลุ่มลูกค้าระบบรายเดือน และระบบเติมเงิน ซึ่งเพิ่มสูงถึงร้อยละ 30 และร้อยละ 41 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า ตามลำดับ ส่งผลให้รายได้จากการให้บริการในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้นเป็น 14.3 พันล้านบาท และมีส่วนแบ่งตลาดรายได้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 23.6 ในขณะที่รายได้จากการให้บริการของผู้ประกอบการใหญ่รายอื่นมีจำนวนลดลงจากปีก่อนหน้า โดย ทรูมูฟ เอช มีผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านราย ในไตรมาส 2 ทำให้ฐานลูกค้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 21.5 ล้านราย ณ สิ้นไตรมาส ทั้งนี้ ทรูมูฟ เอช จะนำเสนอสินค้าและบริการที่เพิ่มมูลค่าให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งสมาร์ทดีไวซ์ 4G หลากหลายรุ่น ในราคาที่เข้าถึงได้ รวมถึงคอนเทนต์และแอพลิเคชั่นที่น่าดึงดูดใจ เพื่อรองรับความต้องการใช้งานโมบายดาต้าและบริการด้านดิจิทัลต่างๆ ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
ทรูออนไลน์ มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 2 ปี 2559 โดยแคมเปญ TRUE Super Speed FIBER ร่วมกับโปรโมชั่นสำหรับบริการคอนเวอร์เจนซ์ของกลุ่มทรู เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้รายได้บริการบรอดแบนด์ในกลุ่มลูกค้าทั่วไป ในไตรมาส 2 เติบโตถึงร้อยละ 15 จากปีก่อนหน้า และผลักดันฐานลูกค้าบรอดแบนด์เพิ่มขึ้นเป็น 2.6 ล้านราย ทั้งนี้ การขยายบริการและโครงข่ายไฟเบอร์บรอดแบนด์อย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมแล้วกว่า 8 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ จะเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มรายได้และฐานลูกค้าให้เติบโตแข็งแกร่งต่อไป
ทรูวิชั่นส์ ยังคงมุ่งมั่นในการสรรหาและนำเสนอคอนเทนต์คุณภาพสูงและหลากหลาย จากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ให้แก่สมาชิกอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ทรูวิชั่นส์ มีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นสุทธิถึง 142,718 ราย ทำให้มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 3.4 ล้านราย อันเป็นผลจากความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในตลาดระดับแมส นอกจากนี้ ความสำเร็จในการได้สิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ บนช่องบีอินสปอร์ต ตลอด 3 ฤดูกาล ครบทุกแมตช์ พร้อมด้วยสิทธิ์รายการฟุตบอลยอดนิยมอีกหลายรายการ ภายใต้แพ็กเกจ “ทรู ซูเปอร์ ซอคเกอร์” จะทำให้ประชากรไทยเข้าถึงคอนเทนต์คุณภาพเหล่านี้ได้มากยิ่งขึ้น ผ่านทั้งแพลตฟอร์มมือถือของทรูมูฟ เอช และโทรทัศน์ของทรูวิชั่นส์
นายวิลเลี่ยม แฮริส หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการเงิน บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “เป็นเรื่องน่ายินดีที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาของกลุ่มทรู ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากผลประกอบการที่โดดเด่นในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมถึงโครงสร้างทางการเงินของกลุ่มทรู ที่กลับมาแข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA ลดลงมาเป็น 2 เท่า ทั้งนี้ การบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นเป้าหมายหลักในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถานภาพทางการเงินและความสามารถในการทำกำไรของกลุ่มทรูต่อไป”
ข่าวเด่น