TRC ได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในบจ. ในการคำนวณดัชนี SET 100 ครึ่งปีหลังของปี 59ผลประกอบการครึ่งปีแรก ปี 2559 มีกำไรสุทธิ 87 ล้านบาท
บมจ.ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น ยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง คาดว่าภายในสิ้นปีจะลงนามในสัญญาก่อสร้างเหมืองแร่โพแทช ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2559 ยังมีงานที่รอรับรู้รายได้ 5,722 ล้านบาท จากมูลค่าตามราคาตลาด และสภาพคล่องในการซื้อขายที่สูงของหุ้น TRC บริษัทฯ ได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนที่ใช้คำนวณดัชนี SET 100 สำหรับครึ่งปีหลังของปี 2559
นายภาสิต ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “TRC” ผู้ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในงานวางระบบท่อ ธุรกิจรับเหมาติดตั้งระบบวิศวกรรมและก่อสร้างโรงงานในอุตสาหกรรมพลังงาน และปิโตรเคมี และธุรกิจพัฒนาโครงการและการลงทุน กล่าวว่า ผลประกอบการครึ่งปีแรก บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการให้บริการก่อสร้าง 1,537 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 87 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.63 และ39.45 ตามลำดับ อัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 18.04 อัตรากำไรสุทธิร้อยละ 5.62 อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 0.95 เท่า สำหรับภาพรวมธุรกิจในครึ่งหลังปี 2559 กลุ่มบริษัทฯ จะยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการวางท่อส่งก๊าซจากวังน้อยไปยังจังหวัดราชบุรี และโครงการวางท่อก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 5 ของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ โดยอาจจะต้องมีการร่วมมือกับพันธมิตรต่างชาติในการเข้าร่วมประมูล และโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานต่าง ๆ
สำหรับโครงการก่อสร้างโรงแต่งแร่โพแทช และระบบสาธารณูปโภค (Turnkey Delivery of APOT Project Package 2. Surface Processing and Facilities) ซึ่ง บริษัทฯ ได้รับ Letter of Award จากบริษัท อาเซียนโปแตซชัยภูมิ จำกัด (มหาชน) หรือ “APOT” ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 มูลค่างาน 142,027,205 เหรียญสหรัฐอเมริกา 416,000,784 ยูโร และ 12,433,389,522 บาท หรือคิดเป็นเงินบาทประมาณ 33,514 ล้านบาทนั้น คาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญารับเหมาก่อสร้างได้ภายในปีนี้ ทั้งนี้ เนื่องจากความเร่งด่วนของการพัฒนาโครงการ APOT ในเดือนพฤษภาคม 2559 APOT จึงได้มีการออกสัญญารับเหมาก่อสร้างสำหรับงาน Early Works เป็นงานด้านการออกแบบและงานปรับปรุงพื้นที่ มูลค่างาน 704 ล้านบาทให้กับบริษัทฯ (เป็นส่วนหนึ่งของงาน Surface Processing and Facilities)
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2559 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีงานที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างที่ยังไม่รับรู้รายได้ 10 โครงการ รวมมูลค่างานที่เหลืออยู่ 5,722 ล้านบาท (รวมงาน Earlyworks จาก APOT มูลค่างาน 704 ล้านบาทแล้ว) และหากรวมโครงการ Turnkey Delivery of APOT Project Package 2. Surface Processing and Facilities จาก APOT แล้ว Backlog ของกลุ่มบริษัทฯจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเป็นประมาณ 38,531 ล้านบาท และนับเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของบริษัทฯ คือ บริษัทฯได้รับเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้เป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนี SET 100 สำหรับช่วงระยะเวลาครึ่งปีหลัง ( 1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม 2559)
ข่าวเด่น