ทีเส็บเปิดตัวโครงการ TIME 2016 หนุนธุรกิจการประชุมและท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลนำร่องเจาะตลาดไมซ์จีน เพิ่มยอดลูกค้าและรายได้เข้าประเทศ
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดตัวโครงการ Thailand Incentive & Meeting Exchange 2016 หรือ TIME 2016 เป็นครั้งแรก เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และเจรจาธุรกิจสำหรับตลาด MI เจาะกลุ่มตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดสำคัญ ที่มีโอกาสการขยายตัวอีกมาก ตั้งเป้าสร้างเป็นโครงการ flagship พร้อมขยายการจัดงานหมุนเวียนไปยังกลุ่มลูกค้าไมซ์ในตลาดอื่นๆที่มีศักยภาพ
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการทีเส็บ กล่าวว่า “ธุรกิจการจัดประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (Meetings & Incentives) หรือ MI นั้น สามารถสร้างรายได้ให้แก่อุตสาหกรรมไมซ์ในภาพรวมได้ตามเป้าหมาย โดยในปี พ.ศ. 2558 มีจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ จำนวน 1,095,995 คนมายังประเทศไทย สามารถสร้างรายได้ 95,857 ล้านบาท ซึ่งมีลูกค้าไมซ์จากประเทศจีนเดินทางมายังประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ตามด้วย อินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี อินโดนีเซีย ฮ่องกง และออสเตรเลีย โดยมีสัดส่วนของนักเดินทางกลุ่ม MI จำนวน 516,663 คน สร้างรายได้ 44,533 ล้านบาท
ส่วนในช่วงสามไตรมาสของปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์รวม 750,742 คน สร้างรายได้ 60,593 ล้านบาท ซึ่งตลาดจีนยังครองอันดับหนึ่งของจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์สูงสุดตามด้วยอินเดีย และ สิงคโปร์ โดยมีสัดส่วนของนักเดินทางกลุ่ม MI จำนวน 393,859 คน สร้างรายได้ 29,664 ล้านบาท”
“จากการเติบโตของธุรกิจ MI ที่มีอย่างต่อเนื่องนั้น ทีเส็บจึงเล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพและความพร้อมของผู้ประกอบการภาคเอกชน ให้สามารถรองรับการขยายตัวของธุรกิจ MI ด้วยการริเริ่มโครงการ Thailand Incentive & Meeting Exchange 2016 หรือ TIME 2016 ขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศ โดยความร่วมมือกับภาคีเอกชน และสมาคมต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้โครงการนี้เป็นเวทีแห่งความรู้สำหรับผู้ประกอบการไมซ์ที่จะนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ MI ไป
กำหนดทิศทางและวางแผนการตลาด ตลอดจนเป็นการระดมความคิดเห็นแลกเปลี่ยนมุมมองเพื่อหาแนวทางสนับสนุนกลุ่มลูกค้าที่จะเข้ามาจัดกิจกรรมในประเทศไทย และยังมุ่งหวังที่จะขยายตลาดไมซ์ไปยังกลุ่มนักเดินทางที่มีคุณภาพและมีศักยภาพในการใช้จ่ายสูง เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่ง
การจัดงานครั้งแรกนี้มุ่งเน้นที่ตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีรูปแบบและความต้องการของนักเดินทางกลุ่มไมซ์ที่มีความหลากหลายและเฉพาะตัว มีตัวเลขของการเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมาถึงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ จึงนับเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยทีเส็บเองเน้นการดึงงานในลูกค้าไมซ์จีนด้วยการเพิ่มกิจกรรมทางการตลาด นำเสนอรูปแบบสินค้าและบริการใหม่ๆที่หลากหลาย นำเสนอบริการพิเศษและจัดทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย ดังนั้นการจัดงาน TIME 2016 จึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สร้างสรรค์ให้ผู้ประกอบการไมซ์ได้เตรียมการเชิงรุกเพื่อดึงตลาดไมซ์จีนเข้าประเทศไทย”
สำหรับกิจกรรมในงาน TIME 2016 แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก
ส่วนแรก Knowledge Exchange เป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ในอุตสาหกรรมการจัดประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในรูปแบบของการจัด FORUM เชิญผู้เชี่ยวชาญในด้าน MI มาเป็นวิทยากร นำเสนอประเด็นที่น่าสนใจ อาทิ การวิเคราะห์ภาพรวมตลาดไมซ์จีน การเลือกจุดหมายปลายทางของการจัดกิจกรรมไมซ์ของกลุ่มบริษัทจีนในต่างประเทศ เป็นต้น โดยมีผู้เข้าร่วมงานเป็นผู้ประกอบการในภาคเอกชนจากอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยประมาณ 150 ราย
ส่วนที่สอง Business Exchange เวทีเจรจาธุรกิจ (Table-top Session) สร้างโอกาสทางการตลาดและการขาย ให้กับผู้ประกอบการไทย ได้เจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไมซ์ (MICE Agent) จากประเทศจีนจำนวนกว่า 40 ราย
ส่วนที่สาม Experience Exchange การจัดกิจกรรมทัศนศึกษาขนาดใหญ่ (Mega Familiarization Trip) สำหรับผู้ประกอบการไมซ์ (MICE Agent) สื่อมวลชน และกลุ่มลูกค้าบริษัท (Corporates) จากประเทศจีนจำนวน 40-45 ราย ณ จังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์เชิงรุกอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องกับกลุ่มตลาดจีน ซึ่งขณะนี้จังหวัดภูเก็ตกำลังได้รับความสนใจในการจัดงานไมซ์จากกลุ่มลูกค้าจีนและด้วยความพร้อมของการเป็นเมืองแห่งไมซ์
“สำหรับเป้าหมายของธุรกิจ MI ในปี พ.ศ. 2559 นั้น ทีเส็บตั้งเป้าจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ในตลาด MI จำนวน 518,000 คน สร้างรายได้ 44,000 ล้านบาท ด้านภาพรวมอุตสาหกรรมไมซ์ในปีนี้ตั้งเป้า จำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ 1,060,000 คน สร้างรายได้ 92,000 ล้านบาท โดยมีงานสำคัญของธุรกิจ MI ในปี 2559 อาทิ Infinitus China Overseas Training 2016 มีผู้เข้าร่วมงานจำนวน 14,000 คน งาน Pro-Health คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงาน 5,500 ราย” นายนพรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวเด่น