ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้ซึมตัวลงสูแนวรับ 1,535-1,540 จุด เกิดแรงขายทำกำไรกลุ่ม ICT / SCC อีกทั้งขาดปัจจัยบวกใหม่เข้าหนุนการลงทุน อีกทั้งตลาดหุ้นในเอเชียและยุโรป ปรับฐานเช่นกัน กดดันจิตวิทยาการลงทุน ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบ 11.59 จุด มาอยู่ที่ 1,537.52 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 70,979 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาตินำเงินมาพักที่ตลาดตราสารหนี้มากถึง 15,460 ล้านบาท แม้ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 8 วันทำการ เพียง 930 ล้านบาท และ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 7 อีก 5,210 สัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ติดตามการรายงานการประชุมเฟดในวันที่ 26-27 ก.ค.ที่ผ่านมา
ติดตามการประชุม ครม.วันนี้
เงินทุนต่างชาติเลือกพักในตลาดตราสารหนี้ เพื่อรอดูภาพการลงทุนที่ชัดเจนระยะหนึ่ง
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 2)
แม้ว่า SET INDEX จะปรับฐานลงในวานนี้ แต่เราเชื่อว่าตลาดหุ้นไทย พักฐานช่วงสั้นๆ เท่านั้น แนวรับ 1,520-1,530 จุด ยังทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง อีกทั้งการย่อตัวลงในรอบนี้ ยังคงยืนยันเป็น “จังหวะของการเข้าทยอยสะสมหุ้นหลัก” โดยเฉพาะ Domestic Play ที่แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 3Q59 จะเติบโต qoq แข็งแกร่ง นำโดยกลุ่มธนาคาร อีกทั้งกลุ่มธนาคารจะเริ่มทยอยประกาศเงินปันผลงวด 1H59 และขึ้นเครื่องหมาย XD ในเดือนก.ย. จะเป็นประเด็นบวกต่อการฟื้นตัวของ SET INDEX ในระลอกถัดไป
สำหรับประเด็นสำคัญวันนี้อยู่ที่ รายงานการประชุมเฟดเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ถึงมุมมองต่อเศรษฐกิจ / ภาวะการจ้างงาน / อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ว่าจะฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพหรือไม่ รวมถึงความสามารถในการทดแรงเสียดทานความเสี่ยงเศรษฐกิจในต่างประเทศได้มากน้อยเพียงใด เพื่อประเมินโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้ได้เมื่อใด ณ ปัจจุบัน Bloomberg consensus คาดการขึ้นดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในการประชุมเดือนธ.ค.
สำหรับกระแสเงินทุนต่างชาติที่ขายทำกำไรในตลาดหุ้น เรากลับให้น้ำหนักเป็นกลาง เพราะเชื่อว่าเม็ดเงินกลับไปพักในตลาดตราสารหนี้ พร้อมกับเม็ดเงินใหม่ที่รอจังหวะการเข้าสะสมหุ้นไทย
กลยุทธ์วันนี้ “นักลงทุนเลือกทยอยสะสมหุ้นที่ Laggard จากกลุ่ม ภายใต้แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2H59 เติบโตแข็งแกร่ง” ประเมินกรอบแกว่ง 1,525-1,540 จุด
Strategy of the Day
1. สะสม TMB : ราคาปิด 2.30 บาท ราคาเหมาะสม 2.50 บาท
a) MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร และเชื่อว่า GDP 2Q59 ที่เติบโต +3.5% yoy ออกมาดีกว่าคาด จะช่วยเสริมความมั่นใจให้กับภาคเอกชนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจใน 2H59 และเป็นบวกต่อกลุ่มธนาคารโดยตรงจากความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น
b) ราคาหุ้นยัง Laggard โดย YTD ปรับตัวลง -4.9% เทียบกับ SET BANK +22.3% และ SET +19.4%
c) Valuation ถูก ซื้อขายที่ PER2560 ต่ำเพียง 9.4 เท่า และ PBV2560 1.1 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย –1SD ของ PER เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี จึงเชื่อว่ามี Downside Risk ของราคาหุ้นจำกัด
2. เก็งกำไร BLAND : ราคาปิด 1.74 บาท ราคาเหมาะสม 2.00-2.50 บาท
a) MBKET คาด BLAND จะ Outperform ตลาด หลังบริษัทประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนวงเงิน 2,278 ล้านบาท จำนวนหุ้นซื้อคืนไม่เกิน 911 ล้านหุ้น หรือเทียบเท่าราคาเพดานซื้อคืนหุ้นละ 2.50 บาท และกำหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืนตั้งแต่ 30 ส.ค. 2559 – 28 ก.พ.2560
b) Valuation ถูก เนื่องจากยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ 2.40 บาท และเรามีมุมมองเชิงบวกต่อโครงการซื้อหุ้นคืน เนื่องจากจะส่งผลให้ตัวเลขทางการเงินดีขึ้น เช่น ROE, EPS และช่วยดูดซับ Free Float ของบริษัทที่สูงถึง 69.5%
c) ราคาปิดวานนี้ยังต่ำกว่าราคาเพดานซื้อหุ้นคืนถึง 44% เชื่อว่าจะเป็น Sentiment บวกต่อราคาหุ้นจนถึงช่วงที่บริษัทเริ่มซื้อหุ้นคืน ตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค.เป็นต้นไป ดังนั้น ในเชิงกลยุทธ์จึงประเมินว่าราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นสู่บริเวณ 2.00-2.50 บาท
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอตัวชัดเจน กลับมาขายสุทธิ US$17 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติเริ่มพักเงินไว้ที่ตลาดตราสารหนี้อีกครั้ง
นักลงทุนต่างชาติ กลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 8 วันทำการ เพียง 930 ล้านบาท เทียบกับ 7 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิมากถึงซื้อสุทธิ 24,854 ล้านบาท ทั้งนี้อาจเป็นแรงกดดันจากภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียและยุโรปที่เริ่มเผชิญกับแรงขายทำกำไรรอบสั้น ส่งผลให้ YTD ต่างชาติซื้อสุทธิลดลงเล็กน้อยเป็น 104,480 ล้านบาท
แต่ SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 7 เร่งขึ้นเป็น 5,210 สัญญา รวม 7 วันทำการ Short สุทธิไปแล้วทั้งสิ้น 20,834 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 8,879 สัญญา คาดว่านักลงทุนกลุ่มนี้ปิดสถานะ Long และกลับมามีสถานะ Short ต่อเนื่อง อีกทั้ง S50U16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเหลือเพียง 2.84 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 6.56 จุด ทำให้นักลงทุนกลุ่มนี้เลือกที่จะ short สุทธิต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอด QTD นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 15,551 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาซื้อสุทธิอีกครั้ง มากถึง 15,460 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยปรับตัวลงเล็กน้อยเป็นวันที่ 2 ผ่านพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นอีก 0.89bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 0.37bps ปิดที่ 2.094%
Short-Selling วานนี้
ขยับขึ้นเป็น 966 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 851 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 28 เน้นลงทุนในกลุ่มหลักของตลาดหุ้นไทย
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิลดลงเหลือ 807 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 2,744 ล้านบาท รวม 28 วันทำการ ซื้อสุทธิทะลุ 70,000 ล้านบาท เป็น 71,926 ล้านบาท โดยเป็นลักษณะการลงทุนกระจายไปในกลุ่มหลักของตลาดหุ้นไทย ทั้งนี้มีแรงขายทำกำไรในกลุ่มอาหารสูงสุด 163 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาเป็นกลาง
- อัตราเงินเฟ้อเดือนก.ค. ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า เท่ากับ Bloomberg consensus คาด แต่ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ +0.2% mom เนื่องจากราคาพลังงานที่ลดลง 1.6% mom รวมถึงราคาอาหารที่ทรงตัว ค่าขนส่งที่หดตัว
- ยอดก่อสร้างบ้านเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.211 ล้านหลัง ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 1.180 ล้านหลัง และเดือนก่อนหน้าที่ 1.186 ล้านหลัง หรือเพิ่มขึ้น 2.1% mom โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของบ้านเดี่ยวที่แข็งแกร่ง 0.5% mom
ประธานเฟดสาขา Atlanta ยืนยันโอกาสขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้: นาย Lockhart ประธานเฟดสาขา Atlanta ยังคงมั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโตในอัตราเร่ง การจ้างานเข้าใกล้การจ้างงานเต็มที่ ค่าจ้างส่งสัญญาณเพิมขึ้น และมากพอที่จะทำให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้ และอัตราดอกเบี้ยจะเป็น 2.0% ภายในสิ้นปี 2560 สอดคล้องกับประธานเฟดสาขา New York ที่ให้ความเห็มมาก่อนหน้าว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยใกล้เข้ามาทุกขณะ ซึ่งอาจจะเป็นในเดือนก.ย.
ยุโรป
อัตราเงินเฟ้ออังกฤษทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2557: เดือนก.ค. อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.6% yoy สูงกว่าตลาดคาดการณ์ที่ 0.5% yoy ทั้งนี้ BoE คาดว่าอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษจะทะลุเป้าหมาย 2.0% ภายในสิ้นปี 2560
ไอซ์แลนด์ผ่อนคลายมาตรการเคลื่อนย้ายเงินทุนของภาคเอกชน: รวมถึงภาคครัวเรือน ด้วยการเปิดให้สามารถนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศได้ ซึ่งถือเป็นการผ่อนคลายครั้งแรกในรอบเกือบ 8 ปีสำหรับการควบคุมการเคลื่อนย้ายเงินทุน โดยกฎหมายดังกล่าวจะมีการเสนอต่อสภาฯ เพื่อพิจารณาในวันที่ 18 ส.ค. โดยเสนอให้บุคคลธรรมดาสามารถนำเงินไปลงทุนในหลักทรัพย์ได้ 100 ล้าน Kronur ต่อปี หรือ นำไปซื้ออสังหาฯ ได้อย่างน้อย 1 แห่งในต่างประเทศ ทั้งนี้จะต้องได้รับการยืนยันจากทางธนาคารกลาง โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2560
จีน
EIA คาดจีนจะเป็นผู้ผลิต Shale Gas รายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกปี 2583: สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) คาดการณ์ว่า จีนจะก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติจากหินดินดาน หรือ Shale Gas รายใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา โดยคาดว่าในปี 2583 จีนจะสามารถผลิต Shale Gas ได้มากกว่า 2 หมื่นล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ทั้งนี้ EIA คาดการณ์ว่า การผลิตก๊าซธรรมชาติจากหินดินดานของจีนจะคิดเป็นสัดส่วน 40% ของการผลิตก๊าซธรรมชาติทั้งหมดของประเทศในปี 2583 ขณะที่กำลังการผลิต Shale Gas ของสหรัฐยังคงสูงเป็นอันดับหนึ่ง โดยคาดว่าสหรัฐจะผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า จากระดับ 3.7 หมื่นล้านลูกบาศก์ฟุตในปี 2558 เป็น 7.9 หมื่นล้านลูกบาศก์ฟุตในปี 2583 โดยคิดเป็นสัดส่วน 70% ของกำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติทั้งหมดในสหรัฐ
ทางการจีนยังคงจำกัดวงเงินการเข้าซื้อหุ้นในตลาดเซินเจินสำหรับนักลงทุนทั่วไป: ทางการจีน ยังไม่มีแผนที่จะเพิ่มโควต้าสำหรับการซื้อขายระหว่างตลาดหุ้นเซินเจินและตลาดหุ้นฮั่งเส็ง โดยการซื้อขายต่อวันจะยังมีเพดาน แต่ทางการอยู่ระหว่างการพิจารณาเพดานการซื้อขายระหว่างตลาดหุ้นฮั่งเส็งที่เชื่อมโยงกับตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ สำหรับนักลงทุนต่างชาติจะมีโควต้าในการซื้อขายตลาดหุ้นเซินเจินราว ครึ่งหนึ่งของโควต้าในตลาดเซี่ยงไฮ้ ที่มีวงเงิน 3.0 แสนล้านหยวน
เอเชียแปซิฟิก
ยอดส่งออกสิงคโปร์(ไม่รวมน้ำมัน)หดตัวในอัตราที่สูงขึ้น : การส่งออกสินค้าประเภท non-oil ของสิงคโปร์ยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่องอีก 10.6% yoy จากเดือนก่อนที่หดตัว 2.4% yoy และมากกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ -2.5% yoy เนื่องจากตัวเลขการส่งของไปยังสหรัฐอเมริกา จีน และไต้หวันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่อย่างไรก็ตามการส่งออกไปยังยุโรป(รวมประเทศอังกฤษ) มีมูลค่าที่สูงขึ้น
ไทย
ไม่มี
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 17 ส.ค. 2559
ข่าวเด่น