ไปรษณีย์ไทย ก้าวสู่ปีที่ 14 ชูแนวคิด 'เครือข่ายเพื่อชีวิตดิจิทัล'เปิดตัวบริการและนวัตกรรมใหม่ อัพดีกรีธุรกิจยุคออนไลน์
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ก้าวสู่ปีที่ 14 เผยผลประกอบการครึ่งปีแรกด้วยรายได้กว่า12,000 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่าหนึ่งพันหกร้อยล้านบาท เดินหน้าปรับปรุงพัฒนาระบบปฏิบัติงานเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์โลกยุคดิจิทัล ภายใต้แนวคิด “ไปรษณีย์ไทย เครือข่ายเพื่อชีวิตดิจิทัล” พร้อมนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาใช้กับระบบงานไปรษณีย์ทุกขั้นตอนมากยิ่งขึ้น ตอบสนองยุทธศาสตร์ “ไทยแลนด์ 4.0” เตรียมเปิดตัวบริการใหม่เพื่อผลักดันภาคอีคอมเมิร์ซให้เติบโตและตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อย่างตรงความต้องการ อาทิ พร้อมโพสต์ (Prompt Post) แอปพลิเคชันจัดทำระบบฝากส่งสิ่งของล่วงหน้า แมสเซนเจอร์โพสต์ (Messenger Post) แอปพลิเคชันสำหรับบริการจัดส่งเอกสารหรือสิ่งของแบบเร่งด่วน และระบบบัตรเงินสด (THP Card) สำหรับใช้ทำธุรกรรมด้านการเงิน ที่สามารถเก็บเงิน เติมเงิน และโอนเงินจากบัตรได้
พลเอกสาธิต พิธรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย ต้องปรับตัวและมีความพร้อมในหลายๆ ด้านให้มากยิ่งขึ้น โดยจะมุ่งหน้าพัฒนาอย่างรอบด้าน ครอบคลุมด้านการให้บริการ ด้านการตลาด ด้านการเงินการลงทุน ด้านบุคลากร และด้านการบริหารจัดการ ภายใต้แนวคิดหลัก 3 ประการ คือ มาตรฐาน ทันสมัย และเป็นที่พึงพอใจของผู้ใช้บริการ เพื่อดำเนินธุรกิจให้ตอบสนองยุทธศาสตร์ “ไทยแลนด์ 4.0” ของทางรัฐบาล และ “แผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม” ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งจะต้องทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของชาติด้วยนวัตกรรม และเป็นช่องทางให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐในระบบดิจิทัล พร้อมกับต้องยึดหลักในการดำเนินงานที่ต้องเติบโตคู่ชุมชน สังคม และประเทศชาติ
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวถึงผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2559 ว่า ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก ระหว่างมกราคม – มิถุนายน ไปรษณีย์ไทยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 12,200 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,677 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 ถึง 22.6 เปอร์เซ็นต์ โดยการเติบโตส่วนใหญ่มาจากการขยายตัวของธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง สร้างรายได้เป็นอันดับหนึ่งคือ 42 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ธุรกิจบริการไปรษณียภัณฑ์มีสัดส่วนรายได้ 37 เปอร์เซ็นต์ ธุรกิจบริการระหว่างประเทศมีรายได้ 14 เปอร์เซ็นต์ และธุรกิจค้าปลีกและการเงิน 6 เปอร์เซ็นต์ พร้อมระบุเป้าหมายรายได้ของปี 2559 ว่าจะอยู่ที่ 24,300 ล้านบาท และประมาณการผลกำไรสุทธิประมาณ 3,000 ล้านบาท
นางสมร กล่าวเพิ่มเติมถึงแผนยุทธศาสตร์การดำเนินงานของไปรษณีย์ไทยในระยะ 3 – 5 ปี ว่า ไปรษณีย์ไทยพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในกระบวนการทำงานทุกขั้นตอน ด้วยยุทธศาสตร์ “ไปรษณีย์ไทย...เครือข่ายเพื่อชีวิตดิจิทัล” เพื่อให้บริการไปรษณีย์มีคุณภาพมาตรฐานในระดับสากลมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งรองรับการเติบโตของธุรกิจ e-Commerce และกลุ่ม Start Up ที่ปัจจุบันมีการเติบโตค่อนข้างสูง โดยมุ่งมั่นดำเนินงานภายใต้นโยบาย “POST Excellence” สร้างคุณภาพมาตรฐานการให้บริการที่เป็นเลิศรอบด้าน ประกอบด้วย P – Product and Service มุ่งเน้นพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ O – Operation ปรับปรุงและยกระดับระบบการปฏิบัติการให้ได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง S – Sustainability เดินหน้าพัฒนาองค์กรให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งตั้งเป้าให้ไปรษณีย์ไทยเป็นองค์กรปลอดทุจริต สร้างการเติบโตอย่างสมดุลร่วมกับชุมชน สังคมและประเทศชาติไปพร้อมกัน T – Team Work มุ่งเน้นการทำงานเป็นทีมผ่านการพัฒนาบุคลากรทั่วประเทศให้มีคุณภาพและพร้อมให้บริการที่เป็นเลิศ
พร้อมกันนี้ ยังได้เร่งพัฒนาบริการและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสามารถผลักดันภาคธุรกิจ e-Commerce และตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ โดยคาดว่าจะเปิดตัวบริการและนวัตกรรมใหม่ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2559 ซึ่งจะสามารถใช้บริการฝากส่งได้สะดวกและง่ายขึ้น อาทิ พร้อมโพสต์ (Prompt Post) แอปพลิเคชันจัดทำระบบฝากส่งสิ่งของล่วงหน้า กล่องพร้อมส่ง กล่องเหมาจ่ายสุดสะดวก Pre Load บริการเตรียมการฝากส่งทางอินเทอร์เน็ตสำหรับกลุ่มธุรกิจ e-Commerce เครื่องเอพีเอ็ม (Automatic Post Machine) ให้บริการรับฝากอัตโนมัติ เซมเดย์โพสต์ (Same Day Post) บริการรับ-ส่งสิ่งของ/ สินค้าด่วนที่มีถึงกันในพื้นที่กรุงเทพฯ ภายในวันเดียว สำหรับกลุ่มลูกค้า e-Commerce แมสเซนเจอร์โพสต์ (Messenger Post) แอปพลิเคชันสำหรับบริการส่งเอกสารหรือสิ่งของเร่งด่วน และรับสินค้าเพื่อฝากส่งเข้าสู่เส้นทางไปรษณีย์ และถ้าต้องการรับสิ่งของแบบเร่งด่วน ก็สามารถใช้บริการ iBox ตู้ไปรษณีย์อัจฉริยะ รับพัสดุสะดวกง่าย เพียงลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ไปรษณีย์ไทย หรือการรับสิ่งของ ณ จุดนำจ่าย (Drop Station) ที่อยู่ใกล้บ้านที่ไปรษณีย์ไทยได้ตกลงเอาไว้ นางสมร กล่าว
นางสมร กล่าวต่อว่า สำหรับด้านการทำกิจกรรมเพื่อสังคม ไปรษณีย์ไทยยังคงดำเนินโครงการเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ มีการดำเนินโครงการ “ไปรษณีย์เพิ่มสุข” มุ่งพัฒนาบนความต้องการพื้นฐานของชุมชน โดยเป็นเครือข่ายประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีต่างๆ เพื่อให้ชุมชนสามารถขับเคลื่อนการทำงานด้วยตนเองและเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเปิดตัวโครงการข้าวฮางบ้านกุดจิก...กินดีอยู่ดี อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร และในเร็วๆ นี้จะเปิดตัวโครงการชุมชนกลุ่มมีดอรัญญิก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และโครงการสนับสนุนสินค้าโอทอป จังหวัดพิษณุโลก
อย่างไรก็ตาม ไปรษณีย์ไทย ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาบริการให้รองรับกับความต้องการของคนไทย รวมไปถึงระบบเครือข่ายการขนส่งและมาตรฐานการให้บริการที่เป็นเลิศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้ใช้บริการ และผู้ประกอบธุรกิจในทุกภาคส่วน เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจไปรษณีย์และการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรในอาเซียนอย่างเต็มภาคภูมิ นางสมร กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวเด่น