ราคาน้ำมันดิบดีดตัวหลังอิหร่านมีท่าทีเจรจาเพื่อคงระดับการผลิต - บมจ.ไทยออยล์
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 24 ส.ค. ราคาน้ำมันดิบดีดตัว หลังอิหร่านมีท่าทีเจรจาเพื่อคงระดับการผลิตในการประชุมระหว่างกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกเดือนหน้า
(+) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังอิหร่านมีท่าทีพร้อมที่จะเข้าร่วมหารือเกี่ยวกับการคงกำลังการผลิตในการประชุมที่ประเทศแอลจิเรียในเดือนหน้า แม้ว่าก่อนหน้านี้อิหร่านยืนกรานที่จะไม่ให้ความร่วมมือเนื่องจากประเทศของตนพึ่งหลุดพ้นจากการคว่ำบาตร อย่างไรก็ดี ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาอิหร่านได้เพิ่มกำลังการผลิตมาจนถึงระดับก่อนที่ตนจะถูกคว่ำบาตร จึงเริ่มมีความสนใจที่จะเจรจาเพื่อพยุงไม่ให้ราคาน้ำมันดิบถูกกดดันจากสภาวะอุปทานล้นตลาด ทั้งนี้ อิหร่านเสนอให้กลุ่มประเทศโอเปก (OPEC)หาทางออกอื่นเพิ่มเติมมากกว่าเพียงแค่การคงกำลังการผลิต
(-) ในทางกลับกัน อิรักยังคงปฏิเสธที่จะคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบของตน เนื่องจากระดับการผลิตในปัจจุบันที่ 4.6 ล้านบาร์เรลยังไม่ใช่ระดับสูงสุดที่ตนจะผลิตได้ มีความเป็นไปได้ว่าอิรักต้องการเพิ่มรายได้ให้แก่ประเทศเนื่องจากเศรษฐกิจยังคงอ่อนตัว ซึ่งการส่งออกน้ำมันดิบถือเป็นรายได้หลักของประเทศหรือคิดเป็นร้อยละ 95 ของการใช้จ่ายในประเทศ
(-) ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ามันดิบคงคลังของสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่19 ส.ค. ปรับเพิ่มขึ้นราว 4.5 ล้านบาร์เรลแตะระดับ 524.2 ล้านบาร์เรลตามรายงานของสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API)สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลงประมาณ 455,000 บาร์เรล สาเหตุหลักเกิดจากการนำเข้าน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น 550,000บาร์เรลต่อวัน จากสัปดาห์ก่อนหน้ามาเป็น 8.8ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังทั่วโลกยังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม น้ำมันเบนซินยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่ปรับลดลงหลังโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ ปิดซ่อมบารุงกะทันหัน
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากแรงกดดันของอุปสงค์ที่ยังคงเบาบางอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อุปทานในเอเชียยังคงล้นตลาด หลังไม่สามารถส่งออกไปขายยังทวีปทางตะวันตกได้
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ามันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ46-50เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการหารือระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกและนอกกลุ่มโอเปก ในวันที่ 26 -28ก.ย. หลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบีย แสดงท่าทีเห็นด้วยกับการร่วมมือกันรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบ ในขณะที่รัสเซียก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ประกาศพร้อมที่จะร่วมมือกับกลุ่มโอเปกเช่นกัน แต่อย่างไรก็ดี ยังต้องจับตามองท่าทีของยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตน้ำมันดิบรายอื่นในกลุ่มโอเปกอย่าง อิหร่านและอิรัก ต่อไป
ภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดเริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลงสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น และปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่ปรับลดลงต่อเนื่องกว่า 3สัปดาห์ติดต่อกัน
ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 8ติดต่อกัน จากรายงานของ Bakeพr Hughes ณ วันที่19ส.ค.ที่รายงานว่าจำนวนหลุมขุดเจาะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 406 แท่น คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้นกว่า 76 แท่นจากต้นเดือน ก.ค.
โดย หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ ประจำวันที่ 24 ส.ค. 2559
.jpg)
ข่าวเด่น