นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือนกรกฎาคม 2559 พบว่าปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 2 มาอยู่ที่ระดับ 84.7 จากระดับ 85.3 ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเกิดจากองค์ประกอบ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการลดลง หลังจากผู้ประกอบการกังวลต่อต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยเฉพาะราคาวัตถุดิบ รวมทั้งการแข่งขันด้านราคา และปัญหาขาดสภาพคล่องโดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
"ปัจจัยลบเกิดจากความกังวลต่อต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยเฉพาะราคาวัตถุดิบ รวมทั้งการแข่งขันด้านราคา ปัญหาการขาดสภาพคล่องโดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ขณะที่ผู้บริโภคยังมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายสะท้อนจากดัชนียอดคำสั่งซื้อและยอดขายโดยรวมที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าแฟชั่นอัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าในกลุ่มก่อสร้าง อาทิ อุตสาหกรรมเหล็ก ปูนซิเมนต์ หลังคาและอุปกรณ์ที่ปรับลดลง จากภาคก่อสร้างที่ชะลอตัวในช่วงฤดูฝน นอกจากนี้ ปัญหาความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก ที่ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก ยังเป็นปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้น"
อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ 100.7 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่อยู่ที่ระดับ 99.8 ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินระดับ 100 ในรอบ 5 เดือน เนื่องจากผู้ประกอบการเห็นว่าการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 59 จะมีบทบาทสำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของภาคเอกชนในระยะต่อไป
ข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการต้องการให้ภาครัฐเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐในช่วงปลายปีงบประมาณ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เร่งแก้ไขปัญหาการเข้าถึงเงินทุนของผู้ประกอบการ SMEs เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ รวมทั้ง ควรให้มีการส่งเสริมการจัดหาช่องทางจำหน่ายสินค้าให้กับทางผู้ประกอบการ SMEs ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ และการออกมาตรการจูงใจให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชนเพิ่มขึ้น
ข่าวเด่น