พาณิชย์รับมือภาวะน้ำท่วม กำหนดมาตรการช่วยเหลือช่วงสาธารณภัยกำชับพาณิชย์จังหวัดดูแลให้มีสินค้าพอเพียงและไม่ขาดแคลน
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กำชับให้พาณิชย์จังหวัดในเขตจังหวัดที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมภาคเหนือ ดูแลให้มีสินค้าพอเพียง ไม่ให้มีสินค้าขาดแคลน และรายงานให้กระทรวงทราบ พร้อมกำหนดมาตรการช่วยเหลือช่วงเกิดสาธารณภัยในทุกพื้นที่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า จากการที่หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ประสบกับภาวะอุทกภัย ซึ่งศูนย์ข้อมูลช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมระบุว่า พื้นที่ในจังหวัดภาคเหนือที่ประสบอุทกภัย มีจำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา ลำพูน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ น่าน แพร่ และลำปาง จึงสั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดในเขตพื้นที่ดังกล่าวข้างต้น ดำเนินการดูแลมิให้เกิดการกักตุน และป้องกันมิให้เกิดภาวะขาดแคลนสินค้า ทั้งนี้ ได้รับรายงานว่า ราคาจำหน่ายสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพในพื้นที่ ที่ประสบอุทกภัยยังคงทรงตัว ปริมาณสินค้ามีเพียงพอ ไม่มีการฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค และไม่พบ การกักตุนสินค้า ทั้งนี้ หากมีการจำหน่ายสินค้าในราคาสูงกว่าเกินสมควรจริง กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 อย่างเข้มงวด ซึ่งมีโทษทางอาญา จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีที่พบว่ามีการฉวยโอกาสสามารถแจ้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนราคาสินค้า สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์
พร้อมกันนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดมาตรการดูแลสถานการณ์สินค้าและราคาในช่วงเกิดสาธารณภัย ไว้ เป็น 2 ช่วง คือ ช่วงภาวะสาธารณภัย และช่วงหลังสาธารณภัย ดังนี้
ช่วงภาวะสาธารณภัย กำหนดแผนการช่วยเหลือประชาชน อาทิ จัดหาสินค้าที่จำเป็นในช่วงภาวะที่เกิด สาธารณภัย ประกอบด้วย กลุ่มสินค้าอาหารที่จำเป็นเพื่อการยังชีพ ได้แก่ ข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง น้ำดื่มบรรจุขวด เป็นต้น กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ที่จำเป็น ได้แก่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน กระดาษชำระ ผ้าอนามัย เป็นต้น และกลุ่มสินค้าวัสดุก่อสร้าง ได้แก่ ปูนซีเมนต์ ทราย กระสอบทราย อิฐบล็อก เหล็ก ไม้ และแผ่นสังกะสี เป็นต้น รวมทั้ง จัดรถจำหน่ายสินค้าเคลื่อนที่ (Mobile Unit) โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป ได้แก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่มบรรจุขวด นมสดพร้อมดื่ม และไข่ไก่ เป็นต้น และจัดจุดจำหน่ายสินค้า ในพื้นที่เกิดอุทกภัยให้มากที่สุด รวมถึงพื้นที่ที่มีความเสี่ยงภัย พร้อมกันนี้ กำหนดจัดตั้งศูนย์ประสานงาน การกระจายสินค้าเพื่อผู้บริโภคเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และจัดสายตรวจพิเศษกำกับดูแลการจำหน่ายสินค้ามิให้มีการเอาเปรียบผู้บริโภค ตลอดจนประสานให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในการกระจายสินค้า ที่ตกค้างอยู่ในศูนย์กระจายสินค้าต่างๆ เพื่อจัดส่งไปยังร้านค้าปลีกท้องถิ่นได้อย่างทั่วถึง
สำหรับช่วงหลังการเกิดสาธารณภัย กระทรวงพาณิชย์กำหนดแผนให้ความช่วยเหลือประชาชน อาทิ จัดงานธงฟ้าเพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนในพื้นที่ประสบภัยหลังจากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง รวมทั้งประสานขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้จำหน่ายสินค้าที่จำเป็นในการฟื้นฟูหลังเกิดสาธารณภัย เช่น สินค้าวัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องนุ่งห่ม เสื้อผ้า และยารักษาโรค เป็นต้น อีกทั้งประสานขอความร่วมมือผู้ประกอบธุรกิจ เอกชนและสถาบันการศึกษา ในการให้บริการตรวจเช็คและซ่อมแซมที่พักอาศัย เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานพาหนะ ในราคาถูกพิเศษ เช่น สมาคมก่อสร้างไทย สมาคมบ้านจัดสรร ศูนย์บริการรถยนต์ตราต่างๆ อู่ซ่อมรถ วิทยาลัยอาชีวศึกษา ผู้ประกอบการสินค้าวัสดุก่อสร้างรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย กระทรวงพาณิชย์จะให้ความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ อาทิ สนับสนุนการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตลาดสด และตลาดกลางสินค้าเกษตรในความส่งเสริม เช่น การจัดหาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการดำเนินธุรกิจและการจำหน่าย เป็นต้น รวมทั้งเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลผลิตของเกษตรกรรายย่อยและสินค้าของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ เช่น การจำหน่ายสินค้าในงานธงฟ้าของกรมการค้าภายใน และขอความร่วมมือให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนจัดหาสถานที่จำหน่ายสินค้าเป็นกรณีพิเศษ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวทิ้งท้ายว่า การวางแผนและกำหนดมาตรการดูแลสถานการณ์สินค้าและราคาในช่วงเกิดสาธารณภัยล่วงหน้า จะส่งผลให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อเหตุการณ์ โดยเฉพาะการดูแลราคาและปริมาณสินค้าเป็นไปอย่างพอเพียงทั่วถึง และป้องกันมิให้เกิดการกักตุน
ข่าวเด่น