ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
WTI ร่วงกว่า 3% หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ พุ่ง - บมจ.ไทยออยล์


 



WTI ร่วงกว่า 3% หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ พุ่ง - บมจ.ไทยออยล์



หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์  รายงานสถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 25 ส.ค. 2559 WTI ร่วงกว่า 3% หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ พุ่ง สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาด


(-) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสร่วงกว่า 3% หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับที่คาดการณ์ สร้างความวิตกกังวลในเรื่องของอุปทาน้ำมันดิบล้นตลาด
         
(-) สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ(EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 ส.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 523.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 0.5 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับเพิ่มขึ้น 36,000 บาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลงประมาณ 1.2ล้านบาร์เรล แต่อย่างไรก็ตามปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังปรับเพิ่มขึ้น 0.1ล้านบาร์เรลซึ่งปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 0.4ล้านบาร์เรล 
         
(-) Tariq Zahir นักซื้อขายน้ำมันจากนิวยอร์ก เผยว่า โดยปกติปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ จะปรับลดลงในช่วงฤดูร้อนของสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้จะเป็นช่วงฤดูร้อนของสหรัฐฯ ก็ตาม จึงชี้ให้เห็นว่าการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานและอุปสงค์จะกลับเข้าสู่จุดสมดุลในไตรมาสที่ 3 นั่นเป็นไปได้ยาก
         
(-) การเจรจาระหว่างสมาชิกในกลุ่มโอเปกและกลุ่มประเทศนอกกลุ่มโอเปก ในเรื่องที่จะคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบ ยังมีความไม่แน่นอนสูง หลังบางประเทศในกลุ่มโอเปกยังคงเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิต อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ว่าผู้ผลิตในกลุ่มประเทศดังกล่าวอาจตกลงกันไม่ได้ เช่นเดียวกับการประชุมครั้งก่อนเมื่อเดือน เม.ย. 59 
         
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่ปรับลดลงหลังโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ ปิดซ่อมบำรุงกะทันหัน ประกอบกับโรงกลั่นน้ำมันในประเทศเกาหลีใต้มีแผนที่จะลงหน่วยผลิตน้ำมันเบนซินในช่วงครึ่งหลังของเดือน ก.ย.
         
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำจากฤดูมรสุมซึ่งคาดว่าจะหมดในเดือน ก.ย. นี้ ประกอบกับอุปทานที่ยังคงล้นตลาด จากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังดีเซลที่ยังคงสูงอยู่ในภูมิภาคและโรงกลั่นคงยังคงเดินเครื่องผลิตเต็มที่ต่อเนื่อง

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
          ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ46-50เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 
          ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง
          จับตาการหารือระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกและนอกกลุ่มโอเปก ในวันที่ 26 -28ก.ย. หลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบีย แสดงท่าทีเห็นด้วยกับการร่วมมือกันรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบ ในขณะที่รัสเซียก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ประกาศพร้อมที่จะร่วมมือกับกลุ่มโอเปกเช่นกัน  แต่อย่างไรก็ดี ยังต้องจับตามองท่าทีของยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตน้ำมันดิบรายอื่นในกลุ่มโอเปกอย่าง อิหร่านและอิรัก ต่อไป
          ภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดเริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลงสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น และปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่ปรับลดลงต่อเนื่องกว่า 3สัปดาห์ติดต่อกัน
          ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 8ติดต่อกัน จากรายงานของ Baker Hughesณ วันที่19ส.ค.ที่รายงานว่าจำนวนหลุมขุดเจาะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 406 แท่น คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้นกว่า 76 แท่นจากต้นเดือน ก.ค.


โดย หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ ประจำวันที่ 25 ส.ค. 2559
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 25 ส.ค. 2559 เวลา : 09:37:09

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 7:33 am