สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง วันที่ 25 สิงหาคม 2559
สภาวะตลาดวันที่ 25 สิงหาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,323.02-1,327.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,800 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,950 บาทต่อบาททองคำ
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.52 น.ของวันที่ 25/08/16)
แนวโน้มวันที่ 26 สิงหาคม 2559
แม้ว่าผลกระทบจากการโหวตถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit ของอังกฤษส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในระดับที่น้อยเกินคาดในช่วงที่ผ่านมาทำให้ความวิตกกังวลต่อความผันผวนของเศรษฐกิจโลกคลี่คลายลง ส่งผลให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยขาดแรงหนุน โดยข้อมูลสินเชื่ออังกฤษยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งและสิ่งนี้เป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ว่าการโหวต Brexit ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคมากนักในช่วงที่ผ่านมา
ขณะที่สกุลเงินปอนด์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดของอังกฤษหลังอังกฤษลงมติ Brexit นั้น ได้ลดการคาดการณ์เกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) และ เอื้ออำนวยมากขึ้นให้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในระยะเวลาอันใกล้ ซึ่งกระตุ้นสกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้น และกลับมากดดันราคาทองคำอีกทาง
อย่างไรก็ตาม บริษัทโพลีเมทัลซึ่งเป็นบริษัทเหมืองทองคำและโลหะเงินของรัสเซียคาดว่า ราคาทองคำจะยังคงมีเสถียรภาพในช่วงครึ่งปีหลัง ถ้าหากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจมหภาคทรงตัว โดยประเมินว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวระหว่าง 1,300-1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระยะนี้ และเราคาดว่า ราคาทองคำจะอยู่ในระดับนี้ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งชะลอแรงขายที่เข้ามายังตลาดทองคำให้เบาบางลงขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การแถลงสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดในการประชุมธนาคารกลางทั่วโลกที่เมืองแจ๊คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่งในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
สำหรับมุมมองของวายแอลจีที่มีต่อราคาทองคำนั้น ประเมินว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง ซึ่งการแกว่งตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนระยะสั้นเข้าซื้อเก็งกำไร
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลังแบบ Sideway โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,313 (21,460บาท) 1,300 (21,250บาท) 1,293 (21,130บาท)
แนวต้าน 1,333 (21,790บาท) 1,344 (21,970บาท) 1,353 (22,120บาท)
ข่าวเด่น