หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้ แม้ว่าจะเปิดดีดตัวขึ้นทดสอบด่าน 1,550-1,555 จุด ผลักดันด้วยหุ้นหลักกลุ่มธนาคาร / CPALL / PTT ก็ตาม แต่ก็เกิดแรงขายทำกำไรตามมา บวกกับตลาดหุ้นยุโรปเปิดย่อตัว กดให้ SET INDEX ซึมตัวลงมาปิดที่ 1,544.10 จุด ลบ 3.45 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 57,914 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 7 อีก 1,017 ล้านบาท ซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 3 เพียง 297 ล้านบาท แต่กลับมา Short สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง 3,937 สัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟด Janet Yellen ที่ Jackson Hole คืนนี้
ติดตามตัวเลขการส่งออกเดือนก.ค.ของไทย Bloomberg consensus คาด -2.25% yoy
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
เม็ดเงินใหม่จากการปิดขายกองทุน Trigger Funds ในสัปดาห์นี้ วงเงิน 6.0 พันล้านบาท
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจเดือนก.ค.ของไทย วันที่ 31 ส.ค.
งาน Thailand Focus ระหว่างวันที่ 31 ส.ค. ถึง 2 ก.ย.
การประกาศปรับดัชนี FTSE เช้าวันที่ 1 ก.ย.
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 9)
หลัง SET INDEX ยังไม่สามารถปิดยืนเหนือ 1,552 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดของปีนี้ได้ ทำให้เราประเมินว่าตลาดหุ้นไทยในวันนี้น่าจะยังเป็นภาพของการแกว่งตัวในกรอบ 1,535-1,550 จุด อาจเห็นแรงขายเพื่อปิดความเสี่ยงต่อถ้อยแถลงของประธานเฟดในคืนนี้ แม้ว่า Bloomberg consensus คาด 32.0% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. และตลาดก็เชื่อว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
แต่เราก็ไม่สามารถปิดประตูโอกาสขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เช่นกัน เพียงแต่หากเกิด Surprise ในค่ำคืนนี้ ประธานเฟดส่งสัญญาณพร้อมขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วยแล้ว การย่อตัวลงของตลาดหุ้นไทยในต้นสัปดาห์หน้า ก็จะเป็นจังหวะของการเข้าสะสมหุ้นหลักใน Domestic Play เช่นกัน เพราะด้วยเม็ดเงินใหม่จากการปิดขายกองทุน Trigger Funds บวกกับการประชุม ECB ในวันที่ 8 ก.ย. มีโอกาสสูงที่ ECB จะเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยบวกที่รอการฟื้นตัวกลับของตลาดหุ้นทั่วโลก อีกทั้งการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดไม่ใช่เป็นครั้งแรก และเป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้มาก่อนหน้านี้แล้วเช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุน เราจึงแนะนำให้ “นักลงทุนทยอยเลือกสะสมหุ้นหลัก โดยเฉพาะกลุ่ม Domestic Play” เมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว หรืออาจเป็นหุ้น Laggard ที่น่าสนใจ
Strategy of the Day
1. สะสม BBL : ราคาปิด 171.50 บาท ราคาเหมาะสม 190.00 บาท
a) BBL ประกาศจ่ายเงินปันผล 1H59 หุ้นละ 2.00 บาท ขึ้น XD วันที่ 6 ก.ย. คิดเป็น Dividend Yield 1.2%
b) คงมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของผลประกอบการใน 2H59 จากสินเชื่อที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นใน 4Q59 ที่เป็น High Season ของภาคธุรกิจ ขณะที่การตั้งสำรองมีโอกาสลดลงเนื่องจากคุณภาพสินทรัพย์มีทิศทางที่ดีขึ้นในทิศทางเดียวกับภาวะเศรษฐกิจ
c) คาดกำไรสุทธิปี 2559 เติบโต +8% yoy เป็น 3.6 หมื่นล้านบาท และ Downside Risk ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากซื้อขายระดับ PBV2559 เพียง 0.8 เท่า และให้ Dividend Yield ในเกณฑ์ดีราว 4.5% ต่อปี
2. สะสม RATCH : ราคาปิด 53.50 บาท ราคาเหมาะสม 58.00 บาท
a) หุ้นกลุ่ม Defensive จะ Outperform ตลาด และเป็นที่พักเงินได้ดี เพื่อรอดูการแถลงของประธานเฟดในคืนวันศุกร์ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก
b) จะขึ้น XD เงินปันผล 1H59 หุ้นละ 1.10 บาท วันที่ 6 ก.ย.คิดเป็น Dividend Yield 2.1%
c) คาดกำไรสุทธิปี 2559 เติบโต +18.5% yoy เป็น 5.9 พันล้านบาท จากแรงผลักดันของโครงการโรงไฟฟ้าหงสาที่ RATCH ถือหุ้นสัดส่วน 40% และยัง Laggard โดย YTD ปรับตัวขึ้นเพียง +7.5% เทียบกับ EGCO +17.7%
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
กลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ US$19 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$110
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติกลับมาเพิ่มสถานะ Short ใน SET50 Index Futures อีกครั้ง
นักลงทุนต่างชาติ คงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 7 อีก 1,017 ล้านบาท รวม 7 วันทำการซื้อสุทธิ 7,339 ล้านบาท และส่งผลให้ YTD ต่างชาติซื้อสุทธิขยับขึ้นเป็น 111,820 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิอีกครั้ง 3,937 สัญญา คาดว่าจะเป็นการกลับมาเปิดสถานะ Short อีกครั้ง ส่งผลให้ยอด QTD นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเพิ่มเป็น 20,985 สัญญา แม้ว่า S50U16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เท่ากับ 4.13 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 3.30 จุด
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้คงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 เพียง 297 ล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิ 4,154 ล้านบาท ภายใต้ราคาพันธบัตรไทยฟื้นตัวเล็กน้อย ผ่านพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนกลับมาลดลง 1.30bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 1.22bps ปิดที่ 2.150%
Short-Selling วานนี้
ขยับขึ้นเป็น 839 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 809 ล้านบาท
และเป็นการกระจายตัวในหุ้นเช่นเดียวกับวันก่อนหน้า
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 35 กลับมาเน้นกลุ่มพลังงาน และลดน้ำหนักกลุ่ม ICT
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิลดลงเหลือ 537 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 842 ล้านบาท รวม 35 วันทำการ ซื้อสุทธิทะลุ 75,000 ล้านบาท เป็น 77,350 ล้านบาท ทั้งนี้ NVDR กลับมาให้น้ำหนักกลุ่มพลังงาน และเลือกลดน้ำหนักกลุ่ม ICT ขายสุทธิ 209 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นบวก
- ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 4.4% mom ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 3.7% mom และฟื้นตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ -4.2% mom เนื่องจากคำสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์เป็นสาเหตุสำคัญ
- ยอดขอสวัสดินการว่างงาน เท่ากับ 2.61 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 2.65 แสนตำแหน่ง และสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.62 แสนตำแหน่ง ทั้งนี้ยอดขอสวัสดิการใหม่ ลดลง 1 พันตำแหน่ง ชะลอตัวจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ลดลง 4.0 พันตำแหน่ง
- ดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น เดือนส.ค. เท่ากับ 50.9 จุด เท่ากับเดือนก่อนหน้า
เฟดสาขาแคนซัสส่งสัญญาณพร้อมขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆ นี้: ประธานเฟดสาขาแคนซัส ให้ความเป็นต่อตลาดแรงงานที่ใกล้จ้างงานเต็ม และอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นใกล้เป้าหมายของเฟดที่ 2.0% ทำให้เฟดก็น่าจะพร้อมที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามแผนที่วางไว้ ทั้งนี้ประธานเฟดสาขาแคนซัสก็เป็นคงลงคะแนนให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
ยุโรป
นายกฯ เยอรมัน เปิดทางให้เวลากับอังกฤษในการเดินเรื่อง Brexit: นายกฯ เยอรมัน กล่าวว่า เยอรมันจะให้เวลากับอังกฤษในการตัดสินใจว่าแนวทางในการดำเนินการ Brexit เพราะก็ไม่มีประโยชน์ที่จะกดดันอังกฤษ อีกทั้งอียูไม่สามารถเปิดการเจรจากับอังกฤษในฐานะใหม่ได้ จนกว่า รัฐบาลอังกฤษจะมีสถานะภาพที่ชัดเจนและยื่นแบบฟอร์มการออกจากการเป็นสมาชิกภาพในกลุ่มอียู
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมันหดตัวสวนทางกับที่คาด: เดือนส.ค. ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 106.2 จุด เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน และลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 108.3 จุด สะท้อนความกังวลจากภาคเอกชนต่อประเด็น Brexit จะมีผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจในอียู
โปรตุเกสเตรียมปรับโครงสร้างทุนของธนาคารรัฐ: รมว.คลัง โปรตุเกส คาดการณ์ว่าจะใช้เงินราว 5.0 พันล้านยูโร ในการปรับโครงสร้างทุนของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เพื่อเป็นการสร้างเสถียรภาพให้แก่ระบบสถาบันการเงินในประเทศ โดย EC และรัฐบาลโปรตุเกสเห็นชอบร่วมกันในหลักเกณฑ์การปรับโครงสร้างดังกล่าวในธนาคารรัฐ Caiza Geral de Depositos
จีน
จีนเริ่มกำหนดเพดานการปล่อยสินเชื่อ P2P: โดยบุคคลจะสามารถกู้ยืมเงินได้สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านหยวน รวมถึงจำกัดเพดานไม่เกิน 200,000 หยวนสำหรับข้างใดข้างหนึ่ง สำหรับ Peer-to-Peer ระหว่างบุคคลและบริษัท เพื่อควบคุมความเสี่ยงในส่วนของ Shadow-banking ส่วนผู้กู้ที่เป็นบริษัทเอกชนจะมีเพดานสูงสุด 5 เท่าของเพดานเงินกู้ของส่วนบุคคล ทั้งนี้การควบคุมดังกล่าว เพื่อเป็นการสร้างแรงกดดันให้เกิดการควบรวมกิจการ และช่วยอุตฯ ในระยะยาว
เอเชียแปซิฟิก
อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นหดตัวเป็นเดือนที่ 5: อัตราเงินเฟ้อเดือนก.ค. ลดลง 0.4% yoy เท่ากับ Bloomberg consensus คาดการณ์ แต่หากพิจารณาอัตราเงินเฟ้อที่ไม่รวมอาหารสด ลดลง 0.5% yoy หดตัวแรงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ -0.4% yoy
ไทย
ไม่มี
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 26 ส.ค. 2559
ข่าวเด่น