MTS Gold Research |บทวิเคราะห์ราคาทองคำ (ภาคเช้า)(26 ส.ค.)
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากการกดดันของถ้อยแถลงประธานเฟดบางสาขาที่มีความเห็นในเชิงบวกในการขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพและตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง รวมทั้งในส่วนของยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนและยอดขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯที่ออกมาดีขึ้น อย่างไรก็ดี ตลาดโดยภาพรวมกำลังรอความชัดเจนในค่ำคืนนี้จากถ้อยแถลงนางเจเนต เยลเลน ประธานเฟด เวลา 21.00น. ตามเวลาประเทศไทย ทำให้นักลงทุนโดยส่วนใหญ่เริ่มขายทองคำออกมาและเฝ้ารอดูสภาพตลาดมากกว่า ส่วนกองทุน SPDR เมื่อวานนี้ขายทองออกมา 1.78 ตัน สู่ระดับ 956.59 ตัน โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจในค่ำคืนนี้ได้แก่ข้อมูล GDP สหรัฐฯขั้นต้นที่คาดว่าจะออกมาแย่ลงจากประมาณการณ์ครั้งแรก และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่คาดว่าจะออกมาดีขึ้นเล็กน้อย
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำในระยะสั้นและระยะปานกลางเริ่มเข้าสู่แนวโน้มทิศทางขาลง หลังจากที่ราคาทางเทคนิคทะลุแนวรับสำคัญบริเวณ 1,325 เหรียญลงมา ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน ดังนั้นแนวรับถัดไปจะอยู่ที่แนวรับจิตวิทยาที่ 1,300 เหรียญ ขณะที่ราคาในอดีตโดยทั่วไปมักจะไม่ทะลุเส้น 50 วันลงมา ดังนั้นการที่ราคาทะลุลงมา ก็ดูแนวโน้มว่าโอกาสจะลงต่อยังมีสูงอยู่ วันนี้คาดเคลื่อนตัวในกรอบ 1,310 และแนวต้านที่ 1,335 เหรียญ ทองคำไทยเองถูกกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.55 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่เงินในภูมิภาคเองก็ดูจะแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ลงทุนตามแนวโน้มทิศทางขาลง แนะนำปิดสถานะ Long และเปิดสถานะ Short เมื่อราคาดีดตัวกลับขึ้นมา นักลงทุนที่ยังถือสถานะ Long อยู่หรือใช้ Leverage ในการลงทุน ควรที่จะพิจารณาทำ Stop Loss หรือหาแนวทางป้องกันความเสี่ยงให้มากขึ้น อย่างไรก็ดี แนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายเนื่องจากถ้อยแถลงของประธานเฟดในค่ำคืนนี้อาจทำให้ราคาทองคำแกว่งตัวผันผวนได้
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
หาจังหวะ Stop Loss หรือ ปิดสถานะ ออกไปก่อน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
หาจังหวะเป็นสถานะเมื่อราคาดีดตัว และปิดทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวลดลง
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
บริหารพอร์ตสมดุลเพื่อรอถ้อยแถลงของประธานเฟดในคืนนี้
Gold Futures Q16 จะมีแนวรับที่ระดับ 21,630 บาท และแนวต้านที่ระดับ 21,830 บาท
Gold Futures V16 จะมีแนวรับที่ระดับ 21,650 บาท และแนวต้านที่ระดับ 21,850 บาท
ข่าวเด่น