กรมการขนส่งทางบก ระบุ !! ประชาชนยังนิยมชำระภาษีรถผ่านสำนักงานของกรมการขนส่งทางบกมากที่สุด เฉพาะเดือนกรกฎาคม 2559 จัดเก็บภาษีรถในเขตกรุงเทพมหานครได้กว่า 650 ล้านบาท ขณะที่การใช้บริการชำระภาษีรถผ่านเว็บไซต์ www.dlte-serv.in.th ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
นายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากการที่กรมการขนส่งทางบกได้อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนเลือกชำระภาษีรถประจำปีผ่านช่องทางการให้บริการหลากหลายช่องทาง ผลปรากฏว่าเฉพาะเดือนกรกฎาคม 2559 สามารถจัดเก็บภาษีรถในเขตกรุงเทพมหานครได้ทั้งสิ้น 652,562,635.99 บาท เป็นการใช้บริการรับชำระภาษีรถยนต์ ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 5 ของกรมการขนส่งทางบกมากที่สุด จำนวน 410,656 ราย จัดเก็บภาษีรถได้ทั้งสิ้น 465,160,181.51 บาท รองลงมาเป็นการใช้บริการรับชำระภาษีรถผ่านช่องทาง “เลื่อนล้อ ต่อภาษี” (Drive Thru for Tax) ชำระภาษีโดยไม่ต้องลงจากรถ จำนวน 53,379 ราย จัดเก็บภาษีรถได้ทั้งสิ้น 94,644,940.47 บาท และการใช้บริการชำระภาษีรถที่ห้างสรรพสินค้าในวันเสาร์ – อาทิตย์ตามโครงการ “ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี” (Shop Thru for Tax) มีผู้ใช้บริการ จำนวน 43,472 ราย จัดเก็บภาษีรถได้ทั้งสิ้น 63,028,835.77 บาท และที่ศูนย์บริการร่วมคมนาคม เชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินที่ให้บริการทุกวันจันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 – 15.00 น. สามารถจัดเก็บภาษีได้ทั้งสิ้น 10,578,678.75 บาท
ขณะที่การชำระภาษีรถผ่านเว็บไซต์ www.dlte-serv.in.th สามารถจัดเก็บภาษีได้ทั้งสิ้น 9,779,894.52 บาท และการรับชำระภาษีรถผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส จัดเก็บภาษีได้ทั้งสิ้น 7,473,183 บาท โดยเจ้าของรถสามารถชำระภาษีรถล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน และต้องไม่ค้างชำระภาษีรถเกินกว่า 1 ปี สำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปี หรือรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปี ต้องมีใบรับรองการตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) มาแสดงด้วย หากเป็นรถที่ติดตั้งแก็สต้องมีหนังสือรับรองการตรวจสอบและทดสอบตามระยะเวลาที่กำหนด ตลอดจนต้องมีกรมธรรม์ประกันภัยตามพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถคงเหลือระยะเวลาคุ้มครองไม่น้อยกว่า 3 เดือน
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้กรมการขนส่งทางบกยังเพิ่มช่องทางการให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนเข้าถึงข้อมูลด้านทะเบียนและภาษีรถ ผ่านแอพพลิเคชั่น DLT eForm ได้ทุกที่ ทุกเวลา เพียงสแกน QR Code DLT eForm ที่ปรากฏบนสื่อประชาสัมพันธ์ของกรมการขนส่งทางบก หรือจากเว็บไซต์ www.dlt.go.th หรือดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นได้ฟรีผ่าน App Store , Google Play และ Window Phone ซึ่งมีคู่มือด้านทะเบียนและภาษีรถ คำแนะนำการติดต่องาน สถานที่ ติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ แผนที่ และเอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ รวมถึงดาวน์โหลดแบบฟอร์มคำขอต่างๆแบบออนไลน์ เพื่อกรอกข้อมูลแล้วนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ลดระยะเวลาและขั้นตอนในการติดต่อขอรับบริการให้น้อยลง รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าว
ข่าวเด่น