“อภิรดี”สั่งการพาณิชย์จังหวัดสำรวจสถานการณ์การเพาะปลูก การผลิต การตลาดพืชเกษตรในพื้นที่ก่อนใช้โครงการประชารัฐเข้าไปช่วยเหลือ เพื่อช่วยยกระดับราคาสินค้าเกษตรและดูแลเกษตรกรหลังโครงการต้นแบบที่บ้านดอนชีประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการ ให้พาณิชย์จังหวัด โดยเฉพาะในจังหวัดที่เป็นแหล่งเพาะปลูกพืชเกษตรสำคัญ ทำการสำรวจสถานการณ์การเพาะปลูก การผลิต และการตลาดของสินค้าเกษตรที่เพาะปลูกในพื้นที่ว่ามีแนวโน้มเป็นอย่างไร มีปัญหาอุปสรรคอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้รับทราบปัญหาของแต่ละพื้นที่ และจะได้รวบรวมก่อนที่จะเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร โดยใช้กลไกประชารัฐในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือต่อไป
“ขอให้ไปสำรวจเป็นรายพื้นที่ว่าแต่ละพื้นที่ เพาะปลูกอะไร มีปัญหาอะไร เกษตรกรต้องการให้ช่วยเหลืออะไร และเมื่อได้ประเด็นปัญหาแล้ว ก็จะมาดูว่า จะเข้าไปช่วยเหลือได้อย่างไร โดยใช้กลไกประชารัฐ ที่กระทรวงฯ จะไปดึงภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือให้เหมาะสมกับพืชเกษตรแต่ละชนิด”นางอภิรดีกล่าว
นางอภิรดีกล่าวว่า การใช้โครงการประชารัฐเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกร เป็นแนวทางที่กระทรวงฯ ให้ความสำคัญ เพราะก่อนหน้านี้ ได้ทำการเปิดโครงการประชารัฐร่วมใจบ้านดอนชีไปแล้ว ซึ่งถือเป็นโครงการต้นแบบที่กระทรวงฯ ได้ร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรบ้านดอนชีที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำในการทำนา และไม่สามารถปลูกพืชชนิดอื่น หลังการเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยได้ช่วยเหลือสร้างระบบท่อส่งน้ำขนาด 0.5 เมตร ระยะทาง 1,573 เมตร พร้อมหัวจ่ายน้ำเชื่อมต่อกับคลอง ส่งน้ำที่มีอยู่เดิม เพื่อให้เกษตรกรมีน้ำใช้สำหรับเพาะปลูก ทั้งปลูกข้าวและพืชอื่นหลังทำนา
นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังได้ประสานความร่วมมือกับภาคเอกชนให้รับซื้อผลผลิตพืชที่ปลูกหลังเก็บเกี่ยวในราคานำตลาด รวมทั้งมีการจัดอบรมการเพาะปลูกและการบริหารจัดการให้กับเกษตรกรด้วย โดยภาคเอกชนที่ได้เข้ามาช่วยเหลือในการรับซื้อพืชตระกูลถั่ว ก็คือ บมจ.ไทยฮา และได้ตกลงที่จะรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในราคานำตลาด ซึ่งเป็นการรับประกันว่าเกษตรกรจะสามารถขายผลผลิตได้ และได้ราคาที่คุ้มกับต้นทุน
ปัจจุบันเกษตรกรบ้านดอนชีมีพื้นที่เพาะปลูกข้าวประมาณ 1,012 ไร่ ปลูกข้าวเปลือกหอมมะลิคุณภาพดีขายได้ตันละ10,200–12,500 บาท โครงการนี้จะช่วยเพิ่มรายได้จากการขายพืชหมุนเวียนให้เกษตรกรอีกไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10
นางอภิรดีกล่าวว่า โครงการประชารัฐที่เกิดขึ้นที่บ้านดอนชี เป็นโครงการพื้นฐานต้นแบบที่กระทรวงพาณิชย์จะใช้ต่อยอดและขยายต่อโครงการไปในพื้นที่อื่นและขยายไปสู่สินค้าอื่นๆ นอกจากสินค้าเกษตร เช่น สินค้าชุมชน สินค้าหัตถกรรม เป็นต้น โดยจะอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการให้ไปตามแนวนโยบายของรัฐบาลในการสานพลังประชารัฐ เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ผ่านโครงการต้นแบบที่ได้ริเริ่มและร่วมมือกันระหว่างเกษตรกร ภาครัฐ และเอกชน
ข่าวเด่น