นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท.ต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดำเนินการมาตรการเพื่อพยุงค่าเงินบาทให้อยู่ระดับไม่แข็งค่ากว่า 34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันนี้ ถือเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการส่งออกของไทย
การส่งออกของไทยได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าที่ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง แม้ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะเริ่มดีดตัวสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2559 เป็นต้นมา แต่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกหลายรายการยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่น ข้าวสาลี น้ำตาล ไก่ เป็นต้น ขณะที่ราคาสินค้ากุ้งยังคงทิศทางทรงตัว โดยในส่วนของสินค้าที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้น ประกอบด้วย ปลา ฝ้าย ยางพารา และเหล็ก เป็นต้น
สภาผู้ส่งออกฯ ยังประเมินว่า การส่งออกไทยในปีนี้จะติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่สี่ติดต่อกัน อยู่ที่ประมาณติดลบ - 2 % ซึ่งช่วงที่เหลือของปีนี้จะต้องส่งออกให้ได้ที่17,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน แต่หากตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้ มีมูลค่าไม่ถึงตามเป้า ก็อาจมีโอกาสติดลบเพิ่มได้มากกว่า - 2%
ทั้งนี้ ค่าเงินบาทของไทยในช่วงเดือนมกราคม - สิงหาคมที่ผ่านมา แข็งค่าขึ้นประมาณ4.41 % จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน ขณะที่ค่าเงินดองของเวียดนามอยู่ในภาวะทรงตัว และคู่แข่งสำคัญอื่น ๆ อยู่ในภาวะแข็งค่าน้อยกว่าเงินบาท ดังนั้น หากไทยไม่ดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม จะส่งผลให้การส่งออกของไทยได้รับผลกระทบอย่างมาก
ข่าวเด่น