บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ (SGX) ร่วมกับ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (สิงคโปร์) จัดงานบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์พบผู้ลงทุน ที่โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพมหานคร ภายใต้หัวข้อ "Singapore: Diversification, Done." โดยมีนักลงทุนสถาบันของประเทศไทยจำนวน 50 รายและบริษัทจดทะเบียนจำนวน 10 บริษัทร่วมพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการลงทุนในบริษัทจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ เพื่อการกระจายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน
บริษัทจดทะเบียนที่เข้าร่วมงานดังกล่าวมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 22,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มีการลงทุนข้ามชาติไปยังประเทศจีน มาเลเซีย อินเดีย ญี่ปุ่นและ สิงคโปร์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุนสถาบันของไทยสามารถกระจายการลงทุนไปยังประเทศต่าง ๆ และสินทรัพย์ทางการเงินที่หลากหลาย รวมไปถึงโกดังสินค้า ศูนย์บริการข้อมูล สนามกอล์ฟ อสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัย โรงพยาบาล และ ทองคำ ซึ่งประกอบไปด้วย 10 บริษัท ดังนี้
1) Accordia Golf Trust Management
2) Ascendas India Trust
3) Cambridge Industrial Trust Management
4) CapitaLand
5) CNMC Goldmine Holdings
6) Global Logistic Properties
7) JUMBO Group Limited
8) Keppel DC REIT Management
9) Religare Health Trust
10) Yanlord Land Group
คุณมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของ บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเปิดโอกาสการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนให้กับผู้ลงทุนไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเครือข่ายกลุ่มเมย์แบงก์ในภูมิภาคนี้ ประเทศสิงคโปร์เป็นหนึ่งในศูนย์กลางของธุรกิจหลักในอาเซียน และจะยังคงได้รับประโยชน์จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศอีกด้วย
จากรายงานของบลูมเบิร์ก เมื่อเดือนมิถุนายน 2559 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ Strait Times ให้อัตราการเติบโตของผลตอบแทนสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ในรอบระยะเวลา 10 ปีเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลก และให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ระดับอัตราร้อยละ 4 ซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 ในทวีปเอเซียเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยที่อัตราร้อยละ 2.7
คุณฉิว สุทัด หัวหน้าส่วนงานธุรกิจตลาดทุนและตลาดตราสารหนี้ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า "พวกเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่นำผู้แทนจากบริษัทจดทะเบียนชั้นนำของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ที่ครอบคลุมอุตสาหกรรมชั้นนำต่าง ๆ ทั้งอสังหาริมทรัพย์ ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน สาธารณสุข สินค้าอุปโภคบริโภค และพลังงานเหมืองแร่ นับว่าเป็นโอกาสอันดีของผู้ลงทุนไทยที่จะรับทราบข้อมูลของธุรกิจอันล้ำค่าดังกล่าวของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์"
ข่าวเด่น