“รมว.พาณิชย์”เดินหน้าช่วยเกษตรกรปลูกข้าวนาแปลงใหญ่ ดึงโรงสีเซ็นเอ็มโอยูรับซื้อผลผลิตข้าวเปลือกพร้อมกันทั่วประเทศ 19 ก.ย.นี้ พร้อมมอบปลัดพาณิชย์ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
นางอภิรดีตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมความพร้อมในการลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ความร่วมมือการซื้อขายผลผลิตข้าวนาแปลงใหญ่ โดยจะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2559 เวลา 14.00 น. ณ สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ จังหวัดนนทบุรี โดยมอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดที่ ได้รับการคัดเลือกจำนวน 15 จังหวัดเชิญผู้แทนโรงสีข้าว และประสานสำนักงานเกษตรจังหวัด เพื่อคัดเลือกประธานกลุ่มนาแปลงใหญ่ในพื้นที่จำนวน 1 กลุ่ม มาลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ที่ส่วนกลาง
สำหรับจังหวัดที่เหลือให้พาณิชย์จังหวัดพิจารณาจัดทำเพิ่มเติมในจังหวัด ตามวันและเวลาเดียวกันพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อเป็นการรับประกันว่าเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการนาแปลงใหญ่ จะมีที่ขายผลผลิตอย่างแน่นอน และขายได้ในราคาตลาด
นางอภิรดีกล่าวว่า กระทรวงฯ ยังได้มอบหมายให้ น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าการดำเนินงานของศูนย์ข้าวนาแปลงใหญ่อย่างต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของเกษตรกร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยล่าสุดได้มีการลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ร้อยเอ็ด และกาฬสินธุ์ระหว่างวันที่ 19-21 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งพบว่าการดำเนินงานมีความคืบหน้าในทุกด้าน และเกษตรกร มีความพึงพอใจ เพราะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้จริง และเชื่อมั่นว่าผลผลิตที่ออกมาจะสามารถขายได้ราคาดี หลังจากที่รัฐได้ทำการเชื่อมโยงผู้ซื้อผู้ขายเอาไว้แล้ว
ทั้งนี้ เกษตรกรส่วนใหญ่ได้แจ้งว่ามีปัญหาด้านหนี้สิน ต้องการให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องมีมาตรการช่วยเหลือ และให้ ธ.ก.ส. ปล่อยเงินกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำตามจำนวนที่จำเป็น เพื่อดำเนินโครงการได้ตามศักยภาพ ส่วนนาข้าวในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ เนื่องจากฝนทิ้งช่วง และอาจทำให้ผลผลิตต่อไร่ลดลง ซึ่งได้แนะนำให้เกษตรกรทำประกันนาข้าวกับธ.ก.ส. เพื่อประกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และให้น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ทำบัญชีครัวเรือนอย่างเข้มงวด และลด ละ เลิกอบายมุขต่างๆ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
สำหรับการผลการลงพื้นที่ตรวจนาแปลงใหญ่ ณ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิ ภาพการผลิตสินค้าเกษตรอำเภอบ้านไผ่ บ้านโสกจาน หมู่ที่ 3 ตำบลในเมือง อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น , กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์บ้านโนนชัย หมู่ที่ 5 ตำบลหนองบัว อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด , กลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่ บ้านโพนฮาด หมู่ที่ 12 ตำบลดงครั่งน้อย และศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด และศูนย์ข้าวชุมชนตำบลโนนสูง อำเภอยางตลาด จังหวัด พบว่า เกษตรกร มีต้นทุนในการเพาะปลูกข้าวลดลงจริง ขณะที่ผลผลิตที่จะออกมา ก็มีการเชื่อมโยงให้โรงสี และผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อในราคานำตลาดแล้ว
ข่าวเด่น