เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่รัฐสภา ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาร่างพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. ....
ที่ประชุมฯ มีมติรับหลักการวาระแรกร่างพ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.....ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยมีมติเอกฉันท์รับหลักการ ด้วยคะแนน 169 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ 18 คน กรอบเวลาทำงาน 60 วัน แปรญัตติ 15 วัน
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ได้ชี้แจงหลักการและเหตุผลว่า พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2475 ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน บทบัญญัติจึงไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ประกอบกับการให้กู้ยืมเงินที่เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราหรือการเรียกเอาประโยชน์อย่างอื่น ทำให้เกิดเครือข่ายผู้มีอิทธิพลเรียกเก็บดอกเบี้ยรายวันในอัตราที่สูง เกิดองค์กรอาชญากรรมที่อาศัยธุรกิจรูปแบบเช่าซื้อเงินด่วน กระจายไปตามที่สาธารณะ สื่อออนไลน์ ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี การตรากฎหมายดังกล่าว จะช่วยคุ้มครองสิทธิประชาชนไม่ให้ถูกละเมิด เพราะกำหนดความผิดชัดเจน อัตราโทษสูงขึ้น โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดจะมีโทษสูงขึ้น และนำกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมาใช้บังคับควบคู่ด้วย
สาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นการกำหนดลักษณะความผิดฐานเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรากำหนด การกำหนดอัตราโทษเพิ่มขึ้นในกรณีผู้กระทำความผิดเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และกำหนดให้มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา การเพิ่มผู้แทนหน่วยงานร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการดังกล่าว และการประสานความร่วมมือกับคณะกรรมการต่าง ๆ ที่ดำเนินงานเกี่ยวข้องกับปัญหาหนี้นอกระบบ รวมทั้งการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติในบางมาตรา เพื่อให้ข้อมูลครบถ้วนถูกต้อง มีความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน
ข่าวเด่น