เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า พล.อ.วลิต โรจนภักดี รองเลขาธิคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยรองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้กล่าวว่าจากการทำงานตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสังคมในทิศทางที่ดีขึ้นในหลายด้าน อย่างไรก็ตามขอให้ทุกส่วนงานได้ทบทวนและประเมินผลการปฏิบัติงานว่า เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ อีกทั้งประชาชนและประเทศได้รับประโยชน์ในทุกมิติในผลงานดังกล่าวหรือไม่อย่างไร เช่น การขุดลอกพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยอย่างยั่งยืนในพื้นที่ต่างๆ ได้ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเรื่องน้ำให้กับประชาชนในพื้นที่นั้นๆ อย่างไร หากพื้นที่ใดประเมินแล้วไม่เป็นไปตามเป้าหมายให้พิจารณาปรับปรุงร่วมกับส่วนราชการที่รับผิดชอบ การจัดระเบียบสังคมในพื้นที่ต่างๆ เช่น แผงค้า สถานที่ท่องเที่ยว ทางเท้า รถบริการสาธารณะ สามารถแก้ปัญหาชุมชนได้อย่างต่อเนื่องและได้รับการยอมรับจากผู้ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ เป็นต้น และในส่วนของงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวเนื่องการดูแลความปลอดภัยของสังคม และการบังคับใช้กฎหมายนั้น ให้คงมาตรฐานการปฏิบัติตามแนวทางเดิม เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการดูแลประชาชน แม้ว่าในห้วง 1-2 เดือนนี้ ในหลายพื้นที่จะมีการสับเปลี่ยนกำลังตามวาระ หรือจะหมดภารกิจในสิ้นเดือนกันยายนนี้ก็ตาม
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า นอกจากนี้การแก้ไขปัญหาสังคม โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติดที่มีการจับกุมเป็นจำนวนมาก กำชับให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย และกองกำลังชายแดนของกองทัพบก เพิ่มความเข้มข้นในการสกัดกั้น การลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดน และการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงมาตรการป้องกันที่สำคัญ เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องไม่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในทุกกรณี ทั้งนี้ในมาตรการป้องกันให้เน้นดูแลบุคคลในครอบครัวเป็นหลัก การประชุมวันนี้ได้มีการรายงานถึงความคืบหน้าในการปฏิบัติงานของส่วนต่างๆ ในรอบสัปดาห์ อาทิ การสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด ป่าไม้ เครื่องกระสุน การพนัน สินค้าหนีภาษี มีผลการจับกุม รวม 236 ครั้ง ได้ผู้ต้องหา 734 คน ได้เข้าจัดระเบียบสังคม 438 ครั้ง ใน 39 จังหวัด ตรวจพบการกระทำความผิด 147 ครั้งโดยสามารถตรวจยึดยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายหลายรายการ อาทิ ยาบ้า 1,347,853 เม็ด, กระท่อม 104.62 กิโลกรัม, ไม้มีค่า 400 ท่อน /673 แผ่น, อาวุธปืน 91 กระบอก, กระสุน 7,196 นัด, ลูกระเบิด 20 ลูก, เงินสด 440,133 บาท, รถยนต์ 5 คัน, รถจักรยานยนต์ 18 คัน, เลื่อยยนต์ 3 เครื่อง และอุปกรณ์การเล่นการพนัน เป็นต้น
ส่วนการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้เข้าช่วยแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งอย่างยั่งยืน โดยให้การสนับสนุนการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลด้วยการขุดลอกและพัฒนา แหล่งน้ำ 1,305 โครงการทั่วประเทศนั้น ในเดือนกันยายนนี้ จะดำเนินการเสร็จทุกโครงการ ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์ 506,885 ครัวเรือน และพื้นที่ทางการเกษตรได้รับประโยชน์ 2,225,762 ไร่ ส่วนการเตรียมภาชนะรองรับน้ำในห้วงฤดูฝนด้วยการปั้นโอ่ง เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งที่ดำเนินการในพื้นที่ 30 จังหวัด นั้น ขณะนี้ภาครัฐได้แจกจ่ายโอ่งน้ำไปแล้วถึง 29,505 ใบ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนมีน้ำสะสมไว้ใช้เพื่อการอุปโภค บริโภค 54 ล้านลิตร
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ และรัฐบาลยังคงให้ความสำคัญต่อการรับฟังเรื่องร้องทุกข์และความเดือดร้อนของประชาชนผ่านศูนย์ดำรงธรรม โดยในสัปดาห์ ที่ผ่านมา รับเรื่องร้องทุกข์ถึง 9,358 เรื่อง ดำเนินการแก้ไขแล้ว 8,803 เรื่อง ที่สำคัญ อาทิ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ได้ร่วมกันตรวจสอบโรงเชือดไก่ ต.ห้วยพระ อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ที่ถูกร้องเรียนว่าปล่อยน้ำเสียลงคลอง และพบว่าไม่มีใบอนุญาต ได้สั่งให้หยุดประกอบกิจการ และส่งเรื่องเข้าดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว อีกกรณีหนึ่งคือการเข้าตรวจสอบ โรงฆ่าสัตว์ใน อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ที่ไม่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สั่งปิดโรงฆ่าสัตว์ดังกล่าวแล้ว เป็นต้น
ข่าวเด่น