บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) มองแนวโน้มยอดขายไก่-สุกร ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ดันยอดขายทะลุเป้า 2 หมื่นล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ กุนซือมือเก๋า "เชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์"ชี้ผลงานโค้งแรกปี"59 พลิกมีกำไรกว่า 872 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาขาดทุน 1.57 พันล้านบาท อานิสงส์มีการจัดทัพใหม่ ปรับกลยุทธ์ธุรกิจ ลดต้นทุน-เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต-ปรับพอร์ตการขายไก่ สุกร เข้าสู่ตลาดที่มีกำไรสูง ขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ หนุนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TFG) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในงวดครึ่งปีแรกของปี 2559 พลิกมาเป็นกำไรสุทธิถึง 872 ล้านบาท จากที่ขาดทุนสุทธิ 1.57 พันล้านบาท ในปี 2558 สาเหตุหลักมาจากการที่บริษัทฯได้มีการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ทั้งในแง่ของการลดต้นทุนการผลิต ในทุกห่วงโซ่สร้างมูลค่า Feed Farm Foods โดยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดค่าใช้จ่ายการผลิตอาหารสัตว์ ค่าชำแหละไก่ โดยตรง ลดต้นทุนวัตถุดิบ ใช้วัสดุทดแทน ลดค่าใช้จ่ายบริหาร
ขณะเดียวกันยังได้มีการปรับกลยุทธ์ในการเพิ่มรายได้ โดยการปรับพอร์ตการขายไก่ สุกร เข้าสู่ส่วนตลาดที่มีกำไรสูงขึ้น เช่น ส่งออก อุตสาหกรรม สาขา ผลิตไส้กรอกไก่ ใช้ชิ้นส่วนได้ราคาดีขึ้น เป็นต้น หาช่องทางจำหน่ายที่ยั่งยืน และ สร้างกำไรขั้นต้นให้สูงขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการปรับลดค่าใช้จ่ายบริหารลงกว่า 25% จากการจัดองค์กรให้กระชับขึ้น ใช้ฝ่ายจัดการน้อยลง ควบคู่ไปกับการลดต้นทุนการผลิต ไก่ สุกร ต่ำกว่าราคาตลาดมาก ราคาไก่ และ สุกร สูงขึ้น ด้วย เลยได้ สองต่อ
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมไก่ในปัจจุบัน มีผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดประมาณ 10 ราย การแข่งขันสูงมาก โดย TFG ครองส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) อันดับ 3-4 หรือประมาณ 9% ของมูลค่าตลาดรวม ซึ่งในขณะนี้ดีมานด์เพิ่มขึ้นมาก ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาการขาดแคลนในประเทศใหญ่ เช่น จีน ทำให้ สินค้าไม่เข้าญี่ปุน ทำให้ญี่ปุ่นสั่งสินค้าไทยมากขึ้น มาเลเซีย เพิ่มห้ามนำเข้าจากจีน จึงหันมาซื้อจากไทย แทน ราคาสูงขึ้นมาก ในเมื่อราคาสินค้าส่งออกดีขึ้น ก็มีผลกระทบให้ราคาในประเทศสูงขึ้น
ส่วนอุตสาหกรรมสุกรโครงสร้างยังคงเป็นรายย่อยมากกว่า 80% รายใหญ่อยู่ที่ 20% โดย TFG ครองมาร์เก็ตแชร์อันดับ 3 มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 4% ของมูลค่าตลาดรวม โดยปัจจุบันมีความต้องการจากประเทศจีน สูงขึ้นมาก เนื่องจากผลิตในประเทศไม่พอ จึงมีการส่งออกไปจีนมาก ประกอบกับเกิดภาวะ โรค ทำให้ สุกรขาดในประเทศ ผลรวมคือราคา วิ่งสูงขึ้นจาก 50 บาทปลายมาถึง 70 บาท ตอนนี้ชะลอเล็กน้อยอยู่ประมาณ 66 บาท เป็นผลให้สามารถสร้างรายได้ และกำไรได้สูง เนื่องจากต้นทุนต่ำ
สำหรับแนวโน้มราคาเฉลี่ย หมูและไก่ในช่วงที่เหลือของปีนี้ และทิศทางในปี 2560 คาดว่า อาจจะมีขึ้นลงตามภาวะดีมานด์ของตลาดปกติบ้าง แต่จะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับนี้ต่อไปอย่างน้อย 1 ปี เนื่องจากรอบเลี้ยงสุกร ใช้เวลานาน ส่วนราคาไก่ ก็คาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับนี้อีกประมาณ 1 ปี เช่นเดียวกัน เนื่องจากจีนมีการนำเข้าลดลง อย่างไรก็ตาม การผลิตในประเทศยังคงขาดแคลนจึงทำให้ราคายังคงทรงตัว
ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TFG) กล่าวอีกว่า มั่นใจว่าแนวโน้มรายได้รวมในปีนี้จะทะลุ 20,000 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตามเป้าหมายที่วางไว้ และรักษาระดับอัตรากำไรสุทธิในระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงครึ่งปีแรก โดยได้รับอานิสงส์จากยอดขายที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งในส่วนของตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ
ข่าวเด่น