การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ต้อนรับอัครราชทูตไทย ณ กรุงนิวเดลี พร้อมด้วยคณะนักธุรกิจอินเดีย เพื่อเปิดโอกาสด้านธุรกิจยางพาราระหว่างสองประเทศ พร้อมเปิดเวทีเจรจาผู้ซื้อพบผู้ขายระหว่างผู้ประกอบกิจการยางพาราไทยและนักธุรกิจอินเดีย มีแนวโน้มไปในทิศทางเชิงบวก
ดร.ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เผยว่า ตลาดอินเดีย เป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจมาก ซึ่งในปี 2558 ปริมาณการส่งออกยางของไทยไปประเทศอินเดียมีประมาณ 98,859 ตัน โดยแบ่งเป็นยางแผ่นรมควัน ชั้น 3 จำนวน 35,120 ตัน และยางแท่ง STR 20 จำนวน 63,739 ตัน ดังนั้น ในปี 2559 - 2560 กยท. ได้ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการส่งออกยางไปประเทศอินเดียให้เพิ่มขึ้นถึง 100,000 ตัน โดยประมาณ 70% คาดว่าจะส่งออกเป็นยางแผ่นรมควันชั้น 3 และ 30% จะส่งออกเป็นยางแท่ง STR 20
อย่างไรก็ตาม การยางแห่งประเทศไทยมีความพยายามในการเปิดตลาดยางพารากับต่างประเทศซึ่งรวมถึงตลาดอินเดียตามนโยบายรัฐบาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีแผนการส่งเสริมยางพาราในต่างประเทศด้วย ดังนั้น โครงการส่งออกยางพาราไทยเข้าสู่ตลาดอินเดีย เป็นโครงการหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นทิศทางและแนวโน้มในเชิงบวกในการลงทุนจากนักธุรกิจอินเดียที่ให้ความสนใจยางพาราของไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างดีเยี่ยมจากสถานเอกอัครราชฑูตไทย ณ กรุงนิวเดลี นำคณะตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจยางพาราอินเดีย ทั้งสมาคมผู้ผลิตยางล้อในประเทศอินเดีย และสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางอินเดียในการร่วมเดินทางมาเยือนเมืองไทยครั้งนี้
“การยางฯ นำคณะอัครราชทูตไทย ณ กรุงนิวเดลี พร้อมด้วยนักธุรกิจอินเดีย ลงพื้นที่ภาคใต้ จ.สงขลา และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.บึงกาฬ ในการจับคู่ทางธุรกิจและส่งเสริมการส่งออกยางพาราไทยในรูปแบบต่างๆ เข้าสู่ตลาดอินเดีย ซึ่งในปัจจุบันประเทศอินเดียมีความต้องการนำเข้ายางธรรมชาติ หรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับยางพารา เพื่อรองรับกับความต้องการภายในประเทศที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นการเปิดโอกาสด้านธุรกิจยางพาราระหว่างสองประเทศ ในฐานะ กยท.เป็นองค์กรภาครัฐ มีความยินดีอย่างยิ่ง เพราะเป็นอีกภารกิจหลักที่สำคัญของการยางแห่งประเทศไทยในการมองหาตลาดใหม่ๆ พร้อมจะเข้าไปเป็นผู้นำร่องในการขยายตลาด” ดร.ธีธัช กล่าว
ข่าวเด่น