หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 9 ก.ย. 2559 ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับลดลง ขณะที่จีนนำเข้าน้ำมันดิบสูงขึ้น
(+) ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานสหรัฐฯ (EIA)รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 2 ก.ย. 2559 ปรับลดลง 14.5 ล้านบาร์เรล ลงมาแตะระดับ 511 ล้านบาร์เรล ซึ่งนับเป็นการปรับลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ ม.ค. 2542 ทั้งนี้เป็นผลมาจากการนำเข้าน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงเหลือ 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งนับว่าเป็นการนำเข้าน้ำมันที่ต่ำสุดนับตั้งแต่มีการเริ่มเก็บข้อมูลในปี 2533 เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้ายจากพายุ Hermineที่เคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งของสหรัฐฯ ในแถบเท็กซัสและลุยเซียนา ส่งผลทำให้การขนส่งน้ำมันดิบที่ชายฝั่งของสหรัฐฯ มีความยากลำบาก
(+) นอกจากนี้ ราคาน้ำมันเบนซินที่ปรับตัวดีขึ้นหลังสต็อกปรับลดลงราว 4.2 ล้านบาร์เรล ยังเป็นอีกปัจจัยหนุนให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้โรงกลั่นปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อตอบรับผลกำไรที่สูงขึ้นจากผลิตน้ำมันเบนซิน
(+) จีนเผยตัวเลขการนำเข้าน้ำมันดิบในเดือน ส.ค. 59 ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.5 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากโรงกลั่นเล็งเห็นถึงข้อได้เปรียบของการนำเข้าน้ำมันดิบในช่วงที่ราคายังต่ำอยู่และต้องการเร่งนำเข้าน้ำมันดิบก่อนที่โควต้าจะหมดอายุในเดือน ธ.ค. 59
(-) อุปทานน้ำมันดิบจากรัสเซียปรับเพิ่มขึ้น หลังตัวเลขกำลังการผลิตน้ำมันดิบในรัสเซียช่วงวันที่ 1-7 ก.ย. 59 ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 11 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงกว่ากำลังการผลิตในเดือน ส.ค. 59 ที่ระดับ 10.71 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่า ตัวเลขจะไม่ได้สูงต่อเนื่องทั้งเดือน เนื่องจากรัสเซียเตรียมร่วมมือกับซาอุดิอาระเบียในการคงอัตราการผลิตน้ำมันดิบ
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่ยังคงแข็งแกร่งในภูมิภาค โดยเฉพาะจากอินโดนีเซียซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ นอกจากนี้ อุปสงค์ของอินเดียมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นด้วยหลังหมดฤดูมรสุม
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังผู้ผลิตน้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเชียมีโอกาสในการส่งออกน้ำมันดีเซลไปยังยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ อุปสงค์จากอียิปต์ยังช่วยหนุนให้ตลาดปรับตัวดีขึ้น
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ44-49 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 46-51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
โอกาสความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกในการประชุมในวันที่ 26 -28 กันยายนมีแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้น หลังรัสเซียและซาอุดิอาระเบียได้บรรลุข้อตกลงในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน อย่างไรก็ดี ซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า การคงกำลังการผลิตในปัจจุบันยังไม่มีความจำเป็นเนื่องจากสภาวะตลาดจะเริ่มสมดุลมากขึ้นในอนาคต
ภาวะอุปทานน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปล้นตลาดคลี่คลายลงหลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลง 14.5 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 511 ล้านบาร์เรล โดยสาเหตุหลักเนื่องมาจากผู้ผลิตน้ำมันดิบต้องหยุดดำเนินการผลิตอย่างกระทันหัน หลังพายุฤดูร้อนเข้าใกล้แหล่งผลิต
ปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวเข้าใกล้ระดับต้นทุนการผลิตที่ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรลจากรายงานของ BakerHughesพบว่าปริมาณแท่นขุดเจาะสำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 2ก.ย. จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบอยู่ที่ 407แท่น เพิ่มขึ้นกว่า 77แท่นจากต้นเดือน ก.ค.
โดย หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ ประจำวันที่ 9 ก.ย. 2559
ข่าวเด่น