ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปภาวะตลาดเงินรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (5-9ก.ย.) เงินบาทร่วงแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 1 เดือนที่ 34.83 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทเผชิญแรงเทขายในช่วงต้นสัปดาห์ สอดคล้องกับแรงขายสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ และการปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทย อย่างไรก็ดี เงินบาทฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้นๆ กลางสัปดาห์ หลังข้อมูลดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐฯ ที่ออกมาแย่กว่าที่คาด กระตุ้นให้มีแรงเทขายเงินดอลลาร์ฯ ออกมา เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ เช่นเดียวกับทิศทางของสกุลเงิน และ sentiment ของตลาดหุ้นอื่นๆ ในเอเชียที่เผชิญแรงขาย หลังธนาคารกลางยุโรปไม่ประกาศ และ/หรือส่งสัญญาณเกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายทางการเงินรอบใหม่
สำหรับในวันศุกร์ (9 ก.ย.) เงินบาทอยู่ที่ 34.78 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 34.61 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ (2 ก.ย.)
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (12-16 ก.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.60-35.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศน่าจะอยู่ที่ผลการประชุมกนง. (14 ก.ย.) ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลสำรวจดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก และเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ตลอดจนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.ย. ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจและข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิเดือนก.ค. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (14 ก.ย.) ตลอดจนตัวเลขเศรษฐกิจเดือนส.ค. ของจีน อาทิ การผลิตภาคอุตสาหกรรม การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร และยอดค้าปลีก
ข่าวเด่น