"สวนดุสิตโพล"มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผย ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน ถึงกรณีข่าวนักการเมืองหลายรายที่มีชื่อเสียงถูกดำเนินคดีทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลได้ตัดสินนักการเมืองที่ทำผิดกฎหมายให้รับโทษด้วยการจำคุกไปแล้ว และล่าสุดศาลตัดสินพิพากษาจำคุกอดีตแกนนำ “สนธิ ลิ้มทองกุล" 20 ปี คดีทำเอกสารเท็จค้ำประกันกู้เงินธนาคารกรุงไทยกว่าพันล้าน สอบถามความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,319 คน ระหว่างวันที่ 7-9 ก.ย.59
ผลสำรวจพบว่าส่วนใหญ่ ร้อยละ 80.82 ระบุหากนักการเมืองและแกนนำ มีความผิดจริง ก็ต้องได้รับการลงโทษตามกฎหมาย รองลงมาร้อยละ 76.95 ระบุควรดำเนินการด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และร้อยละ 61.18 มองว่าบ้านเมืองจะได้พัฒนาในทางที่ดีขึ้น เป็นแบบอย่างให้กับคดีอื่นๆ
เมื่อถามว่าการถูกลงโทษของนักการเมืองและแกนนำ สะท้อนให้เห็นภาพอะไรบ้างของสังคมไทย ส่วนใหญ่ร้อยละ 86.20 ระบุประเทศไทยยังมีปัญหาการทุจริตอีกมาก เป็นปัญหาที่ฝังรากลึกในสังคมไทย ขณะที่ร้อยละ 77.56 ระบุคนทำผิด สมควรได้รับการลงโทษ และร้อยละ 74.53 กฎหมายต้องเข้มแข็ง บังคับใช้ได้กับทุกคน ทุกระดับ
ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ร้อยละ 78.01 ระบุการถูกลงโทษดังกล่าวเป็นการสมควรแล้ว เพราะบ้านเมืองมีกฎหมาย คนทำผิดต้องได้รับการลงโทษ ถือว่าเป็นตัวอย่างสำคัญให้กับบุคคลอื่น ๆ ขณะที่ร้อยละ 12.06 ระบุไม่แน่ใจ เพราะไม่ได้ติดตามข่าวอย่างละเอียด บางคดีเกิดขึ้นนานแล้ว อาจมีข้อมูลสำคัญที่ไม่ได้เปิดเผยให้รับรู้ มีเพียงร้อยละ 9.93 ระบุไม่สมควร เพราะอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น มองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ ควรแก้ไขที่ระบบการทำงานมากกว่า
เมื่อการถูกลงโทษของนักการเมืองและแกนนำ ให้บทเรียนอะไรกับสังคมไทยบ้าง ส่วนใหญ่ร้อยละ 76.14 ระบุไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ใครก็ตามที่ทำผิด ย่อมได้รับการลงโทษตามกฎหมาย ร้อยละ 71.65 ระบุสังคมไทยควรหันมาสนใจและให้ความสำคัญเรื่องการปลูกฝังความซื่อสัตย์ สุจริต และร้อยละ 63.00 เป็นกรณีตัวอย่างให้กับคนในสังคม ไม่หลงในอำนาจและผลประโยชน์
ข่าวเด่น