เมื่อวันที่ 11 กันยายน นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย(มท.) ได้ส่งข้อความผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ถึงรองปลัดมท. อธิบดีในสังกัด ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้านและผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่น และปลัดกทม. ระบุ ด่วนที่สุด เรื่อง การบริหารจัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งอย่างยั่งยืนตามพระราชดำริ ว่า ตามที่ มท.และคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (กปภ.ช.) ได้กำหนดมาตรการและแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งโดยให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแผนปฎิบัติการ ทั้งก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ รวมทั้งการเยียวยาประชาชนและการฟื้นฟูพื้นที่หลังเกิดเหตุไปแล้วนั้น
เพื่อเป็นการน้อมนำพระราชดำริมาขยายผลให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ จึงขอให้จังหวัดและผู้เกี่ยวข้องได้ทบทวนและปรับใช้แผนการปฎิบัติงานแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง ดังนี้
1.ขอให้จังหวัดตรวจสอบว่า พื้นที่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชกระแสรับสั่งกล่าวถึงข้างต้นนั้น ในปัจจุบันได้มีการจัดทำโครงการหรือดำเนินการตามพระราชดำริดังกล่าวไว้แล้วอย่างไร มีหน่วยงานใดเป็นเจ้าของโครงการและสถานภาพของโครงการในปัจจุบันเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ให้รายงานรายละเอียดดังกล่าวให้ มท.ทราบ
2.ให้จัดประชุมคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดโดยเชิญผู้เกี่ยวข้องและผู้ที่อาจไม่ได้เป็นกรรมการเข้าร่วมประชุมด้วย เช่น หน่วยงานทั้งหมดที่รับผิดชอบเกี่ยวกับระบบน้ำ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีสำนักงานอยู่ในพื้นที่จังหวัด/อำเภอ รวมทั้งหน่วยทหารพัฒนาหรือหน่วยทหารช่างในพื้นที่ หน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคม หน่วยงานทางด้านอุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์ ตลอดจนผู้มีประสบการณ์ในพื้นที่ รวมทั้งประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัด หรืออำเภอพื้นที่โครงการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกองค์กร หอการค้าจังหวัดและสภาอุตสาหกรรรมจังหวัด ตลอดจนสถาบันการศึกษาที่มีภาควิชาเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำและทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น มาร่วมประชุมเพื่อศึกษาและน้อมนำพระราชดำริเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำท่วมและน้ำแล้งดังกล่าวข้างต้น มาปรับใช้เพื่อขยายผลให้สามารถดำเนินการในจังหวัดและอำเภอตามสภาพแวดล้อมของพื้นที่
3. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอตลอดจนกำนันผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ซึ่งมีภารกิจหน้าที่ตามกฎหมายในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ประชาชน รวมทั้งเป็นหัวหน้าส่วนราชการหลักประจำพื้นที่ ให้ยึดมั่นในการทำงาน ถือปฏิบัติตามรอยพระยุคลบาทโดยให้หมั่นออกพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชนอย่างทั่วถึงด้วยตนเองเพื่อรับฟังปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมทั้งศึกษาสภาวะแวดล้อมของพื้นที่ให้ทราบข้อมูลและข้อเท็จจริงต่างๆ รวมทั้งสามารถอ่านและวิเคราะห์แผนที่เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการบริหารและการบูรณาการจัดประชุมร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อการวางแผนบริหารจัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งในพื้นที่หรือร่วมกันพิจารณาว่า จะใช้เทคโนโลยี กลไก เครื่องมือและวิธีการลดผล กระทบจากปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งซ้ำซากในพื้นที่อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพได้อย่างไร
4.ในการบริหารจัดการน้ำท่วมและน้ำแล้งนั้น ขอให้ดำเนินการอย่างเป็นระบบและเชื่อมโยงกันอย่างยั่งยืนตามพระราชดำริข้างต้น โดยให้พิจารณาศึกษาหาพื้นที่ระบายน้ำในช่วงน้ำหลากและพื้นที่กักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งในบริเวณชายตลิ่งลุ่มน้ำหรือแม่น้ำสายต่างๆ ซึ่งอาจจะเป็นพื้นที่ธรรมชาติที่มีอยู่เดิมแล้วนำมาพัฒนาปรับปรุงใหม่โดยทำเป็นแหล่งกักเก็บน้ำที่เรียกว่า แก้มลิงหรือเหมือง/ฝายชะลอ น้ำขนาดเล็ก (check dam) หรืออ่างเก็บน้ำ บ่อน้ำ สระน้ำ ที่เรียกว่า หลุมขนมครกก็ได้
5.การหาพื้นที่ตามข้อ 4.ให้พิจารณาพื้นที่สาธารณะหรือที่ดินของรัฐก่อน หากไม่มี ขอให้พิจารณาพื้นที่ของประชาชนที่อาจใช้ได้ แล้วหาทางช่วยเหลือชดเชยหรือเยียวยาประชาชนที่ให้ใช้พื้นที่ทำโครงการตามระเบียบของกระทรวงการคลังและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือจัดทำเป็นโครงการเสนอให้ มท.พิจารณาสนับสนุนก็ได้ แต่โครงการดังกล่าวต้องแสดงรายละเอียด ว่าจะสามารถระบายน้ำได้ปริมาณมากน้อยเพียงใดหรือสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งเป็นจำนวนเท่าไร และมีประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการอย่างไร จำนวนเท่าไร เป็นต้น
6. สำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑลนั้น โดยที่ขณะนี้เริ่มมีฝนตกตามฤดูกาลมากขึ้น จึงขอให้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการระบายน้ำและอำนวยการระบบจราจรโดยใกล้ชิด และติดตามการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ให้มีการมอบหมายเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในการติดต่อประสานงานให้ชัดเจนด้วย
7.การดำเนินการในส่วนกลางนั้น ขอมอบหมายให้รอง ปมท.หัวหน้ากลุ่มภารกิจป้องกันสาธารณภัยและพัฒนาเมือง และอธิบดีกรมป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน แรวมทั้งอธิบดีกรมโยธิการและผังเมืองได้ร่วมกันทบทวนแผนการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งให้เป็นไปตามพระราชดำริข้างต้น ปรับให้สอดคล้องกับพื้นที่และสถานการณ์ในปัจจุบัน ทั้งนี้ ให้มีการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนกลางเช่นกรมชลประทาน สำนักงาน กปร. มูลนิธิชัยพัฒนา มูลนิธิปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(GISTDA) เป็นต้น เพื่อสนับสนุน การปฎิบัติงาน ของหน่วยปฎิบัติงานในระดับพื้นที่
สำหรับการสนับสนุนงบประมาณและเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงานในระดับพื้นที่นั้น ขอมอบหมายให้ รอง ปมท.ฝ่ายบริหารและอธิบดี ปค. อธิบดี สถ.และอธิบดี พช.ได้ร่วมกันพิจารณาสนับสนุนงบประมาณเหลือจ่าย ปี2559 หรืองบประมาณพัฒนาจังหวัดแบบบูรณาการหรือพิจารณาเสนอของบประมาณของส่วนราชการ อื่นๆ เพื่อสนับสนุนโครงการของจังหวัดที่ส่งมาให้ มท.พิจารณาสนับสนุนด้วย
ข่าวเด่น