หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 13 ก.ย. 2559ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นเกือบ 1%หลังดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า
(+) ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าหลัง นางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ แสดงความเห็นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ควรใช้แนวทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยเล็กน้อยและค่อยเป็นค่อยไป เพื่อหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวกระชับนโยบายการเงินก่อนถึงเวลา เบรนาร์ด ยังเผยอีกว่าอยากจะเห็นการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งกว่านี้ ก่อนที่จะสนับสนุนให้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ซึ่งความคิดเห็นดังกล่าวสวนทางกับความเห็นจากเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นๆเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่หนุนการขึ้นดอกเบี้ยโดยเร็ว
(+) สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (shaleoil)ของสหรัฐฯ ในเดือน ต.ค. มีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่อง และติดต่อกันเป็นเวลา 11 เดือน
(-) สำนักงานรอยเตอร์คาดปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 9ก.ย. 59 เพิ่มขึ้น 4.5 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้า หลังจากปรับลดลงสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 14.5 ล้านบาร์เรล
(-) ผู้ค้าจาก PSW Investment ของสหรัฐฯ มองว่าราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสที่ระดับ 47.5 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จะเป็นจุดการเทขายทำกำไร เนื่องจากราคาน้ำมันดิบยังคงมีแรงหนุนจากปัจจัยพื้นฐานที่น้อย อีกทั้งยังคาดว่าหากกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกไม่สามารถเจรจาตกลงในเรื่องนโยบายการรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันได้ จะส่งผลให้มีความเป็นไปได้ยากที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสจะสามารถยืนอยู่ที่ระดับ 45เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
(+) นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า โอกาสในการร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกในการประชุมในวันที่ 26 -28ก.ย. เพื่อ
หารือถึงนโยบายการรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน มีแนวโน้มเชิงบวก
ราคาน้ำมันเบนซิน ตลาดสิงคโปร์ปิดเนื่องในวันหยุด Hari Raya Haji
ราคาน้ำมันดีเซล ตลาดสิงคโปร์ปิดเนื่องในวันหยุด Hari Raya Haji
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ43-48เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 45-50เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
โอกาสความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกในการประชุมในวันที่ 26 -28 กันยายนมีแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้น หลังรัสเซียและซาอุดิอาระเบียได้บรรลุข้อตกลงในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน อย่างไรก็ดี ซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า การคงกำลังการผลิตในปัจจุบันยังไม่มีความจำเป็นเนื่องจากสภาวะตลาดจะเริ่มสมดุลมากขึ้นในอนาคต
ภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดมีแนวโน้มส่งผลกดดันต่อราคาต่อเนื่อง หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ เนื่องจากการขนส่งน้ำมันดิบกลับมาเป็นปกติ ส่งผลให้ปริมาณการนำเข้ามีแนวโน้มสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ภาวะน้ำมันสำเร็จรูปล้นตลาดคลี่คลายลง หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับลดลงมากมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวเข้าใกล้ระดับต้นทุนการผลิตที่ 50เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปริมาณแท่นขุดเจาะสำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่9ก.ย. จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น 7 แท่นมาอยู่ที่414แท่น
โดย หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ ประจำวันที่ 13 ก.ย. 2559
.jpg)
ข่าวเด่น