นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายอดิศักดิ์ ขันตี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสงกรานต์ อักษร รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา และผู้เกี่ยวข้อง ตรวจเยี่ยมศูนย์ควบคุมระบบการป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร ชั้น 6 อาคารศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 (ดินแดง) และหารือการเตรียมความพร้อมรับมือพายุโซนร้อนราอีที่จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยและพื้นที่กรุงเทพฯ
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม.ได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อรับมือพายุที่จะเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ โดยขณะนี้ได้พร่องน้ำในคลองสายหลักและพื้นที่แก้มลิงเพื่อรับน้ำ โดยคลองหลัก 3 คลอง ประกอบด้วย คลองแสนแสบ คลองผดุงกรุงเกษม และคลองดาวคะนอง ซึ่งปกติจะพร่องน้ำลง –0.70 เมตร แต่หากฝนมีปริมาณมากก็จะลดระดับน้ำเพิ่มเป็น –1.00 เมตร ซึ่งจะส่งผลกระทบกับการเดินเรือในคลองแสนแสบบ้างโดยเฉพาะช่วงประตูน้ำ – ผ่านฟ้า อาจทำให้ไม่สามารถเดินเรือได้ แต่ในคลองผดุงกรุงเกษมยังสามารถให้บริการเดินเรือได้ตามปกติ ส่วนแก้มลิงบึงหนองบอนพร่องน้ำลงอยู่ที่ระดับ -5 เมตร ก็จะสามารถรับน้ำได้เพิ่มประมาณ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมถึงลดระดับน้ำในแก้มลิงบึงวารีภิรมย์เพื่อช่วยรับน้ำเพิ่มเติมด้วย นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครได้จัดเจ้าหน้าพร้อมเครื่องสูบน้ำประจำจุดอ่อนน้ำท่วมขังหรือพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม รวมถึงสำรองเครื่องสูบน้ำไว้กว่า 200 เครื่อง ส่วนในพื้นที่ฟันหลอบริเวณถนนทรงวาดและซอยสุขุมวิท 50 ได้เสริมแนวกระสอบกันน้ำหนุนเรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนี้ได้เตรียมกระสอบทรายไว้จำนวน 3 ล้านใบด้วย
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา กทม. ได้เตรียมความพร้อมรับมือน้ำฝนและน้ำเหนืออย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยในเดือนที่ผ่านมาช่วงกลางคืนมีเจ้าหน้าที่จากสำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขต และหน่วยเบสท์ทำงานกันอย่างหนักตลอดคืนทำให้สามารถแก้ปัญหาน้ำรอระบายได้อย่างดี ซึ่งหากฝนตกปริมาณ 70 – 100 มิลลิเมตร ในพื้นที่รอบนอกที่มีพื้นที่รับน้ำ อาทิ พื้นดิน ทุ่งนา ก็จะไม่มีปัญหาน้ำขังรอระบาย แต่หากเป็นพื้นที่เมืองที่มีอาคารบ้านเรือนจำนวนมากก็จะส่งผลให้มีน้ำขังรอระบายได้ อย่างไรก็ตาม กทม. ได้ประสานความร่วมกับจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับกรุงเทพฯ อาทิ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือฝนและน้ำเหนือด้วย ขอให้ประชาชนอย่าได้วิตก ทั้งนี้ กทม. ได้เตรียมพร้อมรับมือน้ำฝน น้ำเหนือ และแก้ไขปัญหาน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างเต็มที่ และมั่นใจว่าจะสามารถรับมือได้
ด้านรองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า สำหรับพายุโซนร้อนมีทั้งหมด 3 ลูก ได้แก่ พายุราอี พายุเมอรันตี และพายุมาลากัส แต่จะมีเพียงลูกเดียวที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย คือ พายุราอี ซึ่งปัจจุบันอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นและจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ จะเริ่มเข้าสู่พื้นที่ประเทศไทยทางภาคอีสานในจังหวัดอุบลราชธานีช่วงเย็นของวันนี้ (13 ก.ย.59) ซึ่งขณะนี้มีเมฆฝนปกคลุมภาคอีสานแล้ว และคาดว่าคืนนี้จะส่งผลกระทบกับกรุงเทพฯ ส่วนในวันพรุ่งนี้ (14 ก.ย.59) คาดว่าพายุดีเปรสชั่นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ส่งผลให้มีฝนเล็กน้อยเบาบางต่อเนื่องในพื้นที่ภาคกลาง จากนั้นในวันที่ 15 ก.ย.59 พายุจะเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ภาคเหนือต่อไป โดยกรุงเทพฯ จะมีฝนน้อยลงตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.59 ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวมั่นใจว่ากทม.จะสามารถรับมือและแก้ไขปัญหาได้
.jpg)
ข่าวเด่น