เมื่อวันที่ 14 ก.ย.พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นห่วงสถานการณ์น้ำในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมในหลายจังหวัด ภายหลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนว่า พายุโซนร้อนราอีจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงนี้
นายกฯ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม พร้อมทั้งกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง และเตรียมออกปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนตลอด 24 ชั่วโมง กรณีเกิดความเสียหายจากพายุที่รุนแรง
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ นายกฯยังให้กรมชลประชาชน หน่วยงานด้านน้ำอื่น ๆ และแต่ละจังหวัดที่พายุจะพาดผ่าน ปรับแผนบริหารจัดการน้ำในภาพรวม และพื้นที่รับผิดชอบให้สอดคล้องกับความเป็นจริงในแต่ละช่วงเวลา เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยจะต้องวางแผนกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งปีหน้าอย่างครบวงจรด้วย ขณะนี้ทุกหน่วยงาน ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คสช. เป็นต้น ได้วางแผนและเชื่อมโยงการทำงานร่วมกัน เพื่อรับมือกับปัญหาน้ำท่วมแล้ว โดยมีการประเมินสถานการณ์น้ำทั้งในและนอกเขตชลประทานแล้ว
"รัฐบาลได้จัดเตรียมรถแจกน้ำกว่า 1,900 คัน และเครื่องสูบน้ำ 1,500 เครื่อง สำหรับประชาชนที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และพื้นที่น้ำท่วมขัง ตลอดจนกำลังพลและเครื่องมือที่พร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน ครอบคลุม 30 จังหวัด ที่อาจได้รับผลกระทบจากพายุ ซึ่งมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในภาคเหนือบริเวณลุ่มน้ำยม จะมีการลดระดับน้ำเหนือประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ จ.สุโขทัย ให้มีพื้นที่รองรับน้ำเพิ่มเมื่อมีฝนตกหนัก และผันน้ำเข้าคลองฝั่งซ้ายและขวาของแม่น้ำยม ส่วนในภาคกลางได้เตรียมพร่องน้ำในคลองชัยนาท-ป่าสัก และเขื่อนพระรามหก จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อรองรับการระบายน้ำจากภาคเหนือ และเตรียมสถานีสูบน้ำให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำ”พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
ข่าวเด่น