ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังปริมาณน้ำมันดิบดีเซลคงคลังสหรัฐฯ พุ่งขึ้น - บมจ.ไทยออยล์


 


หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์  รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 15 ก.ย. 2559ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังปริมาณน้ำมันดิบดีเซลคงคลังสหรัฐฯ พุ่งขึ้น แม้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังลดลง

(-) ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่ออีกร้อยละ 3 จากวันก่อนหน้า หลังปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังสหรัฐฯ โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นมากถึง 4.6 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า แม้ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังปรับตัวลดลง นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันการเสนอขายน้ำมันดิบ Qua Iboeจากไนจีเรีย
         
(-) สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานสหรัฐฯ (EIA)รายงานปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 9 ก.ย. 2559 ปรับเพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าที่ผลสำรวจจาก Reutersคาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 ล้านบาร์เรล โดยปริมาณที่ปรับเพิ่มขึ้นนี้นับเป็นการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์ที่สูงสุดตั้งแต่เดือนม.ค. 59 นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.57 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 0.34 ล้านบาร์เรลเช่นกัน
          
(+/-) อย่างไรก็ดี EIAรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 0.56 ล้านบาร์เรล สวนทางกับผลสำรวจจากรอยเตอร์ที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 3.8 ล้านบาร์เรล โดยสาเหตุที่ปริมาณน้ำมันดิบที่ลดลงคาดว่าได้รับผลกระทบจากการสภาพอากาศที่เลวร้ายของพายุ Hermineทำให้การขนส่งน้ำมันดิบที่ชายฝั่งของสหรัฐฯ ต้องชะลอตัวลง โดยสัปดาห์ก่อนหน้าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังได้ปรับลดลงถึง 14.5 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ดีตลาดมองว่าหากพายุได้สงบลง ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังจะปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
         
 (-) ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการเสนอขายน้ำมันดิบ QuaIboeจากไนจีเรีย หลังจากได้ หยุดการผลิตไปตั้งแต่เดือนก.ค. 59 เนื่องจากท่อส่งน้ำมันดิบเกิดการรั่วไหล อย่างไรก็ดีไนจีเรียยังไม่ได้ทำการเสนอขายน้ำมันดิบ Forcados และ Brass River 
          
(-) นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากรายงานประจำเดือน ก.ย. ของสำนักงานพลังงานสากล (IEA)และรายงานประจำเดือนของโอเปก ที่คาดการณ์ว่าตลาดจะประสบภาวะอุปทานล้นตลาดถึงกลางปี 60 จากเดิมที่คาดการณ์ว่าในครึ่งหลังของปีนี้ตลาดจะเริ่มเข้าสู่สมดุล เนื่องจากอุปสงค์มีแนวโน้มชะลอตัวลงในปลายปีนี้
          
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ของอินโดนีเซียที่มีแนวโน้มปรับลดลง ประกอบกับโรงกลั่นในญี่ปุ่นขนาดกำลังการผลิต 175,000บาร์เรลต่อวัน จะกลับมาดำเนินการผลิตภายในเดือนสิ้นเดือนก.ย. นี้ หลังได้ปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินในวันที่ 8ก.ย. ทีผ่านมา
          
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงสนันสนุนด้านอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากจีน เนื่องจากการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นและการใช้ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว นอกจากนี้อุปสงค์จากอินเดียมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน หลังฤดูมรสุมกำลังจะสิ้นสุดลง

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
          ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ43-48เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 
          ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 45-50เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง
          โอกาสความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกในการประชุมในวันที่ 26 -28 กันยายนมีแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้น หลังรัสเซียและซาอุดิอาระเบียได้บรรลุข้อตกลงในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน อย่างไรก็ดี ซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า การคงกำลังการผลิตในปัจจุบันยังไม่มีความจำเป็นเนื่องจากสภาวะตลาดจะเริ่มสมดุลมากขึ้นในอนาคต
          ภาวะอุปทานน้ำมันดิบและอุปทานน้ำมันสำเร็จรูปล้นตลาดมีแนวโน้มส่งผลกดดันต่อราคาต่อเนื่อง โดยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากการขนส่งน้ำมันดิบกลับมาเป็นปกติ ส่งผลให้ปริมาณการนำเข้ามีแนวโน้มสูงขึ้น
          ปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวเข้าใกล้ระดับต้นทุนการผลิตที่ 50เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปริมาณแท่นขุดเจาะสำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่9ก.ย. จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น 7 แท่นมาอยู่ที่414แท่น 
 
 
 

โดย หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ ประจำวันที่ 15 ก.ย. 2559
 

บันทึกโดย : วันที่ : 15 ก.ย. 2559 เวลา : 08:36:47

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:22 am