กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พร้อมรับรองหลักสูตรของสถานศึกษาสถาบันรัฐและเอกชนทั่วประเทศที่ผลิตบุคลากรนวด ตามพระราบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ในวันที่ 27 กันยายน 2559 หากพบสถาบันที่ได้รับการรับรองจากกรมสบส.ในช่วงปี 2547-สิงหาคม 2559 แต่ลักลอบขายใบวุฒิบัตรรับรองนวด โดยไม่ได้เข้าเรียนจริง กรมสบส.จะตัดสิทธิ์การขอรับรองหลักสูตรครั้งใหม่เป็นเวลา 5 ปี เผยขณะนี้พบผู้ได้รับผลกระทบจากการนวดที่ไม่ได้มาตรฐาน ทั้งแขนชาและหมอนรองกระดูกเคลื่อน
นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันที่ 27 กันยายน พ.ศ.2559 เป็นวันที่พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 มีผลบังคับใช้ หลังจากประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาครบ 180 วัน ซึ่งเจตนารมณ์ของกฎหมายเพื่อพัฒนาส่งเสริมอาชีพนวดเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ เช่นนวดเท้า นวดตัว นวดหน้าและสปา ให้มีความยั่งยืน และคุ้มครองผู้ใช้บริการให้ได้รับบริการที่มีคุณภาพ ปลอดภัย จึงกำหนดให้สถานประกอบการดังกล่าวไม่ว่าสปาหรือร้านนวดทุกขนาด ต้องขึ้นทะเบียนขออนุญาตประกอบการ และมีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ทั้งด้านสถานที่มีความสะอาด ดำเนินการและให้บริการโดยผู้ที่มีความรู้จริง บริการมีคุณภาพมาตรฐาน ปลอดภัย
นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรืองกล่าวต่อว่า ในส่วนของบุคลากรผู้ให้บริการในสถานประกอบการ กรมสบส.ได้เน้นการยกระดับคุณภาพการผลิตให้เป็นไปตามมาตรฐาน ตามกฎหมายฉบับเดิมคือประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ออกตามพระราชบัญญัติสถานบริการพ.ศ. 2509 เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2551 สร้างความเชื่อมั่น ความปลอดภัยต่อผู้ใช้บริการ ตั้งแต่พ.ศ. 2547- เดือนสิงหาคม2559 ได้ให้การรับรองหลักสูตรของสถาบันทั้งภาครัฐและเอกชน ที่เปิดสอน 303 แห่ง รวม 645 หลักสูตร และจะดำเนินการให้การรับรองรอบใหม่ตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 โดยจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เพื่อพิจารณาขึ้นทะเบียนรับรองในวันที่ 27 กันยายน 2559 หากพบว่าสถานศึกษาใดที่ลักลอบขายใบวุฒิบัตร รับรองคุณวุฒิให้แก่ผู้นวด โดยที่ไม่มีการเข้าเรียนจริง ถือว่าเป็นสถาบันที่ไม่ได้มาตรฐาน จะถอดถอนรายชื่อออกจากบัญชีการรับรอง และตัดสิทธ์การขอรับหลักสูตรครั้งใหม่เป็นเวลา 5 ปีด้วย
ทางด้านนายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้อำนวยการกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กล่าวว่า ในช่วง 1-2 สัปดาห์มานี้ พบผู้ป่วยที่มีปัญหาจากการนวดที่ไม่ได้มาตรฐาน 2 ราย รายหนึ่งเกิดอาการชาที่แขนและไหล่เนื่องจากเส้นประสาทถูกทำลายจากการกดนวด อีกรายมีอาการชา ร้าวไปที่ขา จากหมอนรองกระดูกเคลื่อนจากการนวดเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องเน้นคุณภาพมาตรฐานของผู้นวด ต้องมีความรู้จริง โดยกำหนดให้สถาบันที่ผลิตบุคลากรนวดทุกแห่ง จะต้องใช้วิทยากรที่มีความรู้ตรงสาขาที่สอน ในภาคทฤษฎีกำหนดวิทยากร 1 คน ต่อผู้เรียน 40 คน ส่วนภาคปฏิบัติกำหนดให้วิทยากร 1 คน ต่อผู้เรียน 10 คน หลักสูตรการสอนต้องไม่ต่ำกว่ามาตรฐานหลักสูตรกลางที่กำหนด 11 หลักสูตร
สำหรับการรับรองหลักสูตรการสอนของสถาบันต่างๆ นั้น สถาบันเดิมที่ผ่านการรับรองหลักสูตรมาแล้ว หากมีการเพิ่มเติมเช่นเปิดสอนหลักสูตรใหม่เพิ่มเติม หรือเปลี่ยนตัววิทยากร จะต้องแจ้งเรื่องที่กรม สบส.ทุกครั้ง เพื่ออนุมัติก่อนเปิดการเรียนการสอน ส่วนสถาบันใหม่ที่ยังไม่ได้รับการรับรอง หากอยู่ในกทม.ให้ส่งเรื่องขออนุมัติหลักสูตรที่กรมสบส. หากอยู่ในภูมิภาคให้ส่งเรื่องที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนั้นๆ จากนั้นจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ 2 ชุดคือ คณะอนุกรรมการพิจารณารับรองหลักสูตรอบรมผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ และคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เพื่อลงนามการรับรอง ใช้เวลาประมาณ 60 วัน และประกาศชื่อหลักสูตรของสถานศึกษาที่ได้รับการรับรองผ่านทางเว็บไซต์กองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ www.thaispa.go.th
ข่าวเด่น