กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยแหล่งน้ำที่สกปรกอาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค หากมีการสัมผัสหรือสำลักน้ำเข้าสู่ร่างกาย อาจเสี่ยงโรคปอดติดเชื้อได้
นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า การสำลักน้ำ ไม่ว่าน้ำนั้นจะมาจากแหล่งใดก็ตาม หากสำลักลงปอด ก็สามารถทำให้เกิดอาการปอดติดเชื้อได้ แม้แต่การสำลักน้ำดื่มที่สะอาดก็มีโอกาสทำให้ปอดอักเสบและเกิดอาการติดเชื้อในปอดได้เช่นกัน เพราะน้ำลายมนุษย์มีเชื้อโรคอยู่แล้ว เช่น เชื้อแบคทีเรีย แอนแอโร เพียงแต่โอกาสติดเชื้อจะเป็นไปตามปริมาณของเชื้อโรค รวมถึงความสกปรกของแหล่งน้ำด้วย ยิ่งแหล่งน้ำมีความสกปรก เชื้อโรคแปลกๆ ก็จะมาก โอกาสติดเชื้อก็ยิ่งมากขึ้น
นายแพทย์ดนัย กล่าวว่า กรณีบ่อรับน้ำฝนหรือบ่อที่รองรับเก็บกักน้ำ อาจเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคที่ทำให้มีโอกาสติดเชื้อในปอดสูงได้ หากสำลักน้ำเข้าปอด เนื่องจากสภาพบ่อเปิดรับน้ำฝน น้ำที่ไหลจากภูเขา หรืออาจรับน้ำทิ้ง จึงรับเชื้อโรคต่างๆ ได้ง่าย และตลอดทางที่น้ำไหลผ่านจะกวาด ชะล้าง ละลายสารเคมี สิ่งสกปรกอื่นๆ สะสมในบ่อ น้ำในบ่อเปิดจึงมีความสกปรกและมีสารปนเปื้อนหลายอย่าง แต่ด้านเชื้อโรคจะมีความเสี่ยงสูง และเป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคระบบทางเดินอาหาร โดยทั่วไปน้ำผิวดินมักปนเปื้อนเชื้อโรค โลหะหนัก และสารเคมี แต่สำหรับน้ำในแม่น้ำลำคลอง และแหล่งน้ำธรรมชาติอื่นๆ กลายเป็นน้ำเสียนั้น ส่วนใหญ่มักเกิดจาก 1) บ้านเรือนและชุมชน การอุปโภค บริโภค และกิจกรรมต่างๆ จากที่อยู่อาศัย ย่านการค้าขาย สถานประกอบการ เช่น การซักล้าง การประกอบอาหาร รวมถึงสิ่งปฏิกูลที่ปล่อยลงสู่แม่น้ำลำคลองโดยตรง ซึ่งจะทำให้น้ำเน่าน้ำเสียได้ 2) เกษตรกรรม การใช้สารเคมี เช่น ปุ๋ยเคมี สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ซึ่งบางชนิดสลายตัวยาก และจะกระจายอยู่ตามพื้นดิน เมื่อฝนตกน้ำฝนจะชะล้างลงแม่น้ำลำคลอง 3) อุตสาหกรรม กระบวนการผลิต การล้างทำความสะอาดเครื่องมือ อุปกรณ์ และพื้นที่ในโรงงาน น้ำทิ้งจากโรงงานที่ปล่อยลงสู่แม่น้ำลำคลองโดยไม่ได้มีการบำบัดให้ได้ตามมาตรฐาน รวมถึงการทิ้งวัสดุที่เหลือจากผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมลงสู่แม่น้ำลำคลองหรือปนไปกับน้ำทิ้ง ทำให้น้ำเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็น มีสารพิษและเชื้อโรคปะปน เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน
ข่าวเด่น