นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศุลกากร ที่ประจำด่านท่าอากาศยาน เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ, สนามบินดอนเมือง และด่านชายแดนทั่วประเทศ ดำเนินการตรวจสอบการลักลอบนำเข้าอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ ยี่ห้อ แอปเปิ้ล รุ่นใหม่ หรือ ไอโฟน 7 และ ไอโฟน 7 พลัส ที่เปิดตัวในต่างประเทศเมื่อต้นเดือน ก.ย.2559เข้มงวดมากขึ้น หากพบว่ามีการลักลอบนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และไม่มีการเสียภาษีให้ครบถ้วน ก็จะมีความผิดจะถูกยึดอุปกรณ์ที่นำเข้ามาทั้งหมด โดยไม่มีข้อยกเว้น โดยการนำเข้าอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ปัจจุบันจะไม่มีภาษีนำเข้า แต่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
ทั้งนี้ พบว่าส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการที่จำหน่ายโทรศัพท์มือถือที่ลักลอบนำเข้าไอโฟน 7 และ ไอโฟน 7 พลัส หิ้วขึ้นเครื่องบินมาจากต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศ สิงคโปร์ ฮ่องกงที่เป็นลักษณะการพรีออเดอร์ซึ่งการนำเข้ามาพบว่าเป็นการนำเข้าไม่ได้นำมาใช้เอง แต่เป็นการค้าขาย พร้อมทั้งตั้งราคาขายสูงเกินจริง โดยที่ผ่านมา กรมศุลกากรมีแผนตรวจจับผู้นำเข้าที่ลักลอบไว้ทั้งหมด รวมถึงผู้ที่นำมาขายผ่านตู้ในห้างที่ขายสินค้าไอทีโดยเฉพาะถือว่ามีความผิด เพราะเป็นการนำเข้ามาในราคาที่ต่ำ แต่ตั้งราคาขายสูง และไม่มีการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะถูกยึดเครื่อง
ส่วนกรณีที่มีใบนำเข้าแต่มาสำแดงภายหลัง ก็ทำได้แต่ก็จะมีค่าปรับตามกฎหมาย“การจับกุมผู้ลักลอบนำเข้าโดยไม่มีใบอนุญาต จะดำเนินการเฉพาะผู้ที่มีเจตนานำเข้ามาเพื่อทำการค้าโดยเฉพาะ เนื่องจากข้อมูลที่ผ่านมาส่วนใหญ่ ผู้ประกอบการจะลักลอบนำเข้ามาด้วยการเปิดให้ผู้ที่สนใจพรีออเดอร์แต่ต้องจ่ายในราคาที่สูงกว่าราคาจริงเกือบ 2 เท่า ส่วนกรณีที่นำเข้ามาใช้เอง 1-2 เครื่อง กรมศุลฯ คงไม่ได้เข้าไปจับกุม แต่ผู้ที่นำเข้ามาใช้จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามด่านต่างๆที่เดินทางผ่านเข้ามา”
.jpg)
ข่าวเด่น