หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 21 ก.ย. 2559ราคาน้ำมันดิบWTI ขึ้น จากอุปสงค์ที่ฟื้นตัว หลังท่อส่งน้ำมันเบนซินจะกลับมาดำเนินการในวันนี้
(+/-) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังอุปสงค์น้ำมันดิบมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากท่อขนส่งน้ำมันเบนซิน Colonialpipelineที่เกิดการรั่ว จะเริ่มกลับมาดำเนินการในวันนี้ อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดยังคงกังวลเรื่องภาวะอุปทานล้นตลาด โดยมองว่าผลการประชุมเพื่อคงกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก และนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 26-28ก.ย นี้ ยังมีความไม่แน่นอน
(+) ท่อขนส่งน้ำมันเบนซิน Colonialpipelineได้รับการอนุมัติจากภาครัฐให้กลับมาดำเนินการในวันนี้ หลังเกิดการรั่วเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 59 ทำให้อุปทานน้ำมันเบนซินในฝั่ง EastCoastของสหรัฐฯอยู่ในสภาวะภาวะขาดตลาด เนื่องจากอุปทานลดลงถึง 1.3ล้านบาร์เรลต่อวัน และยังส่งผลให้ราคาน้ำมันเบนซินสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
(+) สถาบันปิโตรเลียมสหรัฐฯ (ApI)รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ รายสัปดาห์สิ้นสุด ณวันที่ 16 ก.ย. 59 ปรับลดลง 7.4 ล้านบาร์เรล สวนทางกับผลสำรวจของ Reutersที่คาดว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังจะปรับเพิ่มขึ้น 3.4ล้านบาร์เรล
(+/-) อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงจับตาการรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA)ที่จะประกาศในคืนนี้ ซึ่งหากตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังปรับขึ้นน้อยกว่าผลสำรวจของ Reuters หรือปรับลดลงในทิศทางเดียวกับ ApIจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในวันพรุ่งนี้มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้ว่าตลาดน้ำมันดิบยังมีอุปทานส่วนเกินอยู่
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานในภูมิภาคที่มีแนวโน้มสูงขึ้น หลังโรงกลั่นของไต้หวันจะกลับมาดำเนินการผลิตในเดือนนี้ ประกอบกับได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันเบนซินในตลาดสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงหลังท่อขนส่งน้ำมันเบนซิน Colonial pipeline จะกลับมาดำเนินการ ซึ่งจะส่งผลให้สหรัฐฯ สามารถสต็อกน้ำมันเบนซินทางฝั่ง East Coast ได้เพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากคาดว่าอุปสงค์จะเพิ่มขึ้นช้ากว่าการเพิ่มขึ้นของอุปทาน โดยโรงกลั่นในภูมิภาคยังคงผลิตน้ำมันดีเซลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากจีน อย่างไรก็ดี อุปสงค์น้ำมันดีเซลยังไม่แข็งแกร่ง หลังการเติบโตของเศรษฐกิจเอเชีย และตะวันออกกลางมีแนวโน้มชะลอตัวลง
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ41-46 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 43-48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนค่าลง หลังในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในวันที่ 20 -21 ก.ย. ตลาดคาดว่ามีโอกาสเพียงร้อยละ 20 เท่านั้นที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเปราะบาง อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดว่ามีโอกาสกว่าร้อยละ 40ที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค.
ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากกลุ่มลิเบียและไนจีเรียมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มมากขึ้น หลังสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศเริ่มคลี่คลายลง โดยไนจีเรีย เตรียมที่จะมีการเสนอขาย Que Iboe ในสิ้นเดือนนี้แล้ว
ภาวะอุปทานน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปล้นตลาดมีแนวโน้มส่งผลกดดันราคาต่อเนื่อง หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังมีแนวโน้มสูงขึ้นจากการขนส่งน้ำมันดิบที่กลับมาเป็นปกติ และปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังอุปสงค์เริ่มปรับตัวลดลง
โดย หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ ประจำวันที่ 21 ก.ย. 2559
ข่าวเด่น