ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้ปรับฐานลง กดดันด้วยกลุ่ม ICT กลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคารเป็นสำคัญ แม้ว่าจะไม่มีปัจจัยลบเข้ามากดดันการลงทุนก็ตาม กองทุนภายในประเทศต้องการปิดความเสี่ยงก่อนการประชุมเฟด ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบ 18.95 จุด มาอยู่ที่ 1,473.78 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,194 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทย 1,766 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง 4,460 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 7,245 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ต่างชาติซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาดพร้อมกัน
ติดตามการประชุม BoJ ตลาดคาด BoJ จะเพิ่มวงเงิน QE และลดอัตราดอกเบี้ยให้ติดลบมากขึ้น
ติดตามการประชุมเฟดในคืนนี้ ตลาดให้โอกาสของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยขยับขึ้นเป็น 22% จากวันก่อนหน้า 20%
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 4)
เราประเมิน SET INDEX วันนี้แกว่งแคบลงระหว่าง 1,465-1,480 จุด เพื่อรอดูผลการประชุม BoJ ในช่วงบ่ายวันนี้และเฟดในค่ำคืนนี้ หาก BoJ ผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม เชื่อว่าจะเกิดแรงเก็งกำไรในช่วงท้ายตลาดวันนี้ อาจทดสอบด่าน 1,480 จุดได้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนทั่วโลกต่างให้น้ำหนักกับการประชุมเฟดในค่ำคืนนี้ Bloomberg consensus คาดโอกาสเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ 22% เทียบกับวันก่อนหน้าที่ 20% หากเฟดเลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ เฟดจะเหลือโอกาสในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เพียงครั้งเดือนในเดือนธ.ค. เพราะการประชุมเดือนพ.ย.เป็นการประชุมย่อย และไม่มีจัดแถลงผลการประชุมหลังสิ้นสุดการประชุม ซึ่งน่าจะทำให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกมีโอกาส Rally ไปได้อีก 2-3 เดือนข้างหน้า จับตาเดือนพ.ย.ที่จะเป็นช่วงของการเลือกตั้งในสหรัฐฯ มีโอกาสที่จะเห็น Pre-Election Rally ได้เช่นกัน สอดคล้องกับตลาดหุ้นไทยที่อยู่ในช่วงประกาศผลการดำเนินงาน 3Q59 หากออกมาดีกว่าคาด ย่อมได้อานิสงค์บรรยากาศดังกล่าวด้วยเช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุน “เราแนะนำเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางและเล็กที่แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 3Q59 เด่นแบบจำกัดวงเงิน” ส่วนหุ้น Big Cap อาจยังมีแรงกดดันจากสถาบันภายในประเทศ
Strategy of the Day
1. เก็งกำไร TTA : ราคาปิด 9.45 บาท ราคาเหมาะสม 12.60 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มเรือเทกองจะตอบรับเชิงบวกต่อเนื่อง จากการไต่ระดับขึ้นของดัชนีค่าระวางเรือ BDI อีก 29 จุดเมื่อคืนนี้ เป็น 865 จุด ทำระดับสูงสุดใหม่ของปี 2559 และเข้าใกล้จุดคุ้มทุนธุรกิจเรือเทกองของ TTA
b) คาดว่าดัชนีค่าระวางเรือ BDI จะยังขยับขึ้นต่อในเดือน ต.ค. จากการเข้าสู่ฤดูกาล Re-stocking ของจีน เนื่องจากปริมาณสต็อกสินแร่เหล็กของจีนยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยราว 5% และการเข้าสู่ High Season ของธุรกิจถ่านหินเพื่อเร่งส่งมอบก่อนการเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว
c) Downside Risk จำกัด ซื้อขายที่ PBV เพียง 0.7 เท่า และฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยมีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้น สิ้นสุด 2Q59 สูงถึง 1.2 หมื่นล้านบาท หรือเทียบเท่า 6.59 บาทต่อหุ้น
2. เก็งกำไร SCB : ราคาปิด 150.50 บาท ราคาเหมาะสม 169.00 บาท
a) ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกระยะสั้น เนื่องจาก SCB เป็นผู้สนับสนุนวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 4.25 หมื่นล้านบาทให้กับคุณพิชญ์ โพธารามิก เพื่อทำคำเสนอซื้อหุ้น JAS ดังนั้น จึงคาดว่าสินเชื่อ 3Q59 จะขยายตัวสูงกว่าหุ้นอื่นๆในกลุ่มธนาคาร
b) หุ้นกลุ่มธนาคารจะตอบรับเชิงบวก หากการประชุมเฟดในคืนนี้มีมติคงอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลให้เงินทุนต่างชาติไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเอเซียเกิดใหม่มากขึ้นในระยะสั้น
c) คาดกำไรสุทธิปี 2559 เติบโต +5.9% yoy เป็น 49,962 ล้านบาทต่อเนื่อง +14.5% yoy ในปี 2560 เป็น 57,224 ล้านบาท และ Valuation ถูก ซื้อขายที่ระดับ PBV2560 เพียง 1.4 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังที่ 2.0 เท่า และให้ Dividend Yield ราว 4% ต่อปี
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 อีก US$131 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$274 ล้าน
ทั้งนี้เงินทุนต่างชาติชะลอการลงทุนทั่วเอเชียเกิดใหม่
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาดอีกครั้ง
นักลงทุนต่างชาติ กลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง 1,776 ล้านบาท แม้ว่าจะต่ำกว่าวันก่อนหน้าที่ขายสุทธิ 3,442 ล้านบาทก็ตาม ส่งผลให้ YTD ต่างชาติซื้อสุทธิขยับขึ้นเล็กน้อยเป็น 133,431 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิอีกครั้ง 4,460 สัญญา คาดว่าจะเป็นการทยอยปิดสถานะ Short ที่เปิดไว้ก่อนหน้า เมื่อ S50U16 กลับมาปิดสูงกว่า SET50 Index เป็นวันแรกในรอบ 7 วันทำการ 1.70 จุด จากวันก่อนหน้าปิด Discount แคบเพียง 0.81 จุด ทำให้ยอด QTD นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิลดลงเล็กน้อยเป็น 11,848 สัญญา
และนักลงทุนกลุ่มนี้ คงการซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 7,245 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 9,122 ล้านบาท โดยราคาพันธบัตรไทยปรับฐานลงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 1.07bps จากวันก่อนหน้าลดลงเพียง 0.61bps ปิดที่ 2.228%
Short-Selling วานนี้
ขยับขึ้นเป็น 1,518 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 892 ล้านบาท และ SBL กระจายมากถึง 94 หุ้น จากวันก่อนหน้า 72 หุ้น
NVDR Movement
NVDR กลับมาเป็นการซื้อสุทธิ เน้นลุ่มธนาคารเด่นสุด
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 348 ล้านบาท จาก 2 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 176 ล้านบาท ทั้งนี้ NVDR ยังคงซื้อสุทธิกลุ่มธนาคารเด่น 663 ล้านบาท และกลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 139 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มขนส่งถูกลดน้ำหนักสูงสุด 225 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มโรงพยาบาล ขายสุทธิ 138 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นลบ
- ยอดก่อสร้างบ้านเดือนส.ค.เท่ากับ 1.142 ล้านหลัง ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 1.190 ล้านหลัง และเดือนก่อนหน้าที่ 1.212 ล้านหลัง หลังลดลง 5.4% mom แม้ว่ายอดก่อสร้างบ้านเดี่ยวจะเพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง 3.7% mom
- ยอดขออนุญาตการก่อสร้างบ้านเดือนส.ค. เท่ากับ 1.139 ล้านหลัง ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 1.167 ล้านหลัง แต่ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 1.144 ล้านหลัง
เวเนซูเอล่าประเมินภาวะอุปทานส่วนเกินน้ำมันราว 10%: เวเนซูเอล่า ประเมินปริมาณน้ำมันจะต้องลดลง 10% เพื่อที่จะทำให้ระดับการผลิตน้ำมันเท่ากับระดับการบริโภค ณ การผลิตปัจจุบันอยู่ที่ 94 ล้านบาร์เรล/วัน
ยุโรป
อียูมันใจจะสรุปเขตการค้าเสรีกับทางญี่ปุ่นได้ภายในปีนี้: รองประธาน EC ยังคงเชื่อมั่นว่าการเจรจาระหว่างอียู และญี่ปุ่นในเรื่องของเขตการค้าเสรีจะสามารถสรุปได้ภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ประเด็นที่ยังอยู่ระหว่างการหารือจะเป็นส่วนของที่เกี่ยวกับเขตพื้นที่ เช่นผลิตภัณฑ์เกษตรจะต้องกำหนดพื้นที่ที่ชัดเจน หรือการบริการขนส่ง การเจรจาจะตั้งอยู่บนผลประโยชน์ร่วมกัน
นายกฯ อิตาลีไม่เห็นด้วยกับการปฎิรูปการคลังที่เยอรมันเสนอ: นายกฯ อิตาลี Renzi ประเมินว่าการเสนอให้อิตาลีต้องปฎิรูปการคลังจะกลายเป็นสิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อยุโรป แต่จะเป็นประโยชน์ต่อเยอรมันเพียงฝ่ายเดียว
จีน
ผู้นำจีนมีมุมมองเศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง: ผู้นำจีน Li Keqiang ให้ความเห็นต่อเศรษฐกิจจีนแสดงสัญญาณเติบโตอย่างมีเสถียรภาพและยังมีรูมอีกมากในการเติบโต ขณะที่เงินหยวนจะมีเสถียรภาพ ณ ระดับที่สมเหตุสมผลและสมดุลย์
เอเชียแปซิฟิก
ตัวเลขเศรษฐกิจญี่ปุ่นออกมาต่ำกว่าคาด
- การส่งออกเดือนส.ค.หดตัว 9.6% yoy ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด -4.5% yoy แต่หดตัวน้อยกว่าเดือนก่อนหน้า -14.0% yoy และเป็นการหดตัวเดือนที่ 11 ติดต่อกัน
- ดุลการค้าเดือนส.ค. ขาดดุล Yen1.87 หมื่นล้าน
ไทย
ไม่มี
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 21 ก.ย. 2559
.jpg)
ข่าวเด่น