บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ส่งบริษัทลูก “ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP)” เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ยื่นไฟลิ่งเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 229.50 ล้านหุ้นต่อ ก.ล.ต.เป็นที่เรียบร้อย ด้าน “จรีพร จารุกรสกุล ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม เผยต้นปี 60 จ่อเข้าซื้อขายได้ หวังนำเงินสยายปีกธุรกิจสาธารณูปโภคและธุรกิจพลังงานแบบครบวงจร ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบล.ไทยพาณิชย์ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ผู้นำด้านโลจิสติกส์ อสังหาริมทรัพย์ และนิคมอุตสาหกรรม แบบครบวงจรในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เปิดเผยว่า บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ WHA ได้ทำการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์กับสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เรียบร้อยแล้ว โดยจำนวนหุ้นที่เสนอขายไม่เกิน 229.50 ล้านหุ้น และได้ยื่นคำขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมี บล.ไทยพาณิชย์ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
การเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 125 ล้านหุ้น และ การเสนอขายหุ้นสามัญเดิมของผู้ถือหุ้นเดิม คือ H-International (SG) Pte. Ltd. จำนวนไม่เกิน 104.50 ล้านหุ้น ซึ่งการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อนำไปใช้เป็นเงินลงทุนในโครงการในอนาคต ทั้งในส่วนของการขยายธุรกิจสาธารณูปโภค และธุรกิจพลังงาน นอกจากนี้ จะนำไปชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
สำหรับ WHAUP เป็นบริษัทย่อยของ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินธุรกิจสาธารณูปโภค ครบวงจรให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบการอุตสาหกรรมต่างๆ อันได้แก่ จำหน่ายน้ำดิบ ผลิตและจำหน่ายน้ำเพื่ออุตสาหกรรม จากน้ำดิบ น้ำเสีย หรือน้ำทะเล และบริหารจัดการน้ำเสีย รวมถึงธุรกิจสาธารณูปโภคอื่น ๆ อาทิ ธุรกิจท่อส่งก๊าซ ธุรกิจบริหารจัดการขยะอุตสาหกรรม นอกจากนี้ บริษัทยังมีนโยบายที่จะขยายธุรกิจในการให้บริการสาธารณูปโภคในชุมชน และธุรกิจพลังงาน โดยลงทุนในธุรกิจผลิต และจำหน่ายไฟฟ้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ เข้าร่วมลงทุนกับ กลุ่มกัลฟ์ กลุ่มโกลว์ กลุ่มบี กริม พาวเวอร์ และกลุ่มกันกุล
ปัจจุบัน บริษัทได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวจากกลุ่มเหมราชฯ ในการประกอบธุรกิจสาธารณูปโภคดังกล่าวในนิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบอุตสาหกรรมของเหมราชฯในประเทศไทย เป็นเวลา 50 ปี นับจากวันที่ 30 มี.ค.59 แต่ในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด บริษัทมีสัญญาในการผลิตและจำหน่ายน้ำ ในวันที่ 1 ก.ค.51 เพียง 25 ปี โดยดำเนินธุรกิจอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมของกลุ่มเหมราชฯ จำนวน 6 แห่ง และเขตประกอบการอุตสาหกรรมของกลุ่มเหมราชฯ จำนวน 2 แห่ง ซึ่งมีพื้นที่เปิดให้บริการรวม 24,000 ไร่ สำหรับธุรกิจพลังงาน กลุ่มบริษัทดำเนินธุรกิจในลักษณะการเข้าถือหุ้นในบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ทั้งที่ตั้งอยู่ในประเทศและต่างประเทศ โดยมีโรงไฟฟ้าที่กลุ่มบริษัทเข้าลงทุนเปิดดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้วจำนวน 12 โครงการ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมประมาณ 1,651.40 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็นกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมประมาณ 319.29 เมกะวัตต์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) กล่าวเพิ่มว่า นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯยังมีโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้างที่ได้เข้าไปลงทุนจำนวน 6 โครงการ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมประมาณ 775 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็นกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมประมาณ 193.83 เมกะวัตต์ และมีโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างพัฒนาที่จะเข้าไปลงทุนจำนวน 1 โครงการ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมประมาณ 120 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็นกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมประมาณ 30.01 เมกะวัตต์
อีกทั้งยังมีการลงทุนในอนาคตเพิ่มขึ้น เช่น โครงการขยายธุรกิจการให้บริการสาธารณูปโภคด้านน้ำ โดยมีแผนจะขยายขอบข่ายการให้บริการทั้งการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เช่น การให้บริการน้ำเพื่ออุตสาหกรรมประเภทอื่นๆ ตามความต้องการของกลุ่มลูกค้า รวมทั้งการขยายฐานลูกค้าออกนอกนิคมอุตสาหกรรม เช่น การให้บริการน้ำประปาแก่ชุมชนในพื้นที่ที่มีศักยภาพ ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังมีโครงการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการผลิต เพื่อลดต้นทุนการผลิต และสามารถยกระดับมาตรฐานการให้บริการให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภคอื่นๆ รวมถึงธุรกิจท่อส่งก๊าซ และบริหารจัดการขยะ
ส่วนธุรกิจพลังงาน บริษัทอยู่ระหว่างวางแผนพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทน โดยมุ่งเน้นการต่อยอดโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และกำลังศึกษาความเป็นไปได้ของโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนอื่นๆ เช่น พลังงานลม และพลังงานขยะ โดยบริษัทจะเข้าร่วมประมูลสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อเข้าร่วมการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับ กฟน.และ กฟภ.เมื่อมีการเปิดประมูลและมีแผนการลงทุนและจำหน่ายไฟฟ้าในแก่ผู้ใช้ไฟรายย่อยที่มีความสนใจอีกด้วย
นอกจากนี้ บริษัท เหมราช เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด บริษัทย่อยของ WHAUP ลงนามในสัญญากับกลุ่มโกลว์ และ Suez เพื่อร่วมลงทุนในบริษัท อีสเทิร์นซีบอร์ด คลีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด 33.33% ซึ่งเป็น Holding Company ที่ถือหุ้นใน บริษัท ชลบุรี คลีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด และบริษัท ระยอง คลีน เอ็นเนอร์ยี จำกัด เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ประเภท VSPP จำนวน 2 โครงการ
สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี ตามงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมเสมือนของ WHAUP ในปี 2556 มีรายได้รวม 1,989.49 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 461.14 ล้านบาท ล้านบาท ส่วนปี 2557 มีรายได้รวม 3,181.45 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,562.29 ล้านบาท และปี 2558 รายได้รวมเท่ากับ 2,865.58 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,220.69 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน ปี 2559 บริษัทมีรายได้รวม 1,715.52 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 894.32 ล้านบาท ในขณะที่ ฐานะการเงินของบริษัท สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.59 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 18,480.90 ล้านบาท หนี้สินรวม 11,093.28 ล้านบาท และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมของบริษัท หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหลังหักสำรองตามกฎหมายในแต่ละปี
สำหรับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ณ วันที่ 30 ส.ค.59 ได้แก่ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 82.31 และ H-International (SG) Pte. Ltd ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 17.69 ซึ่งภายหลังจากการเสนอขายหุ้น IPO เหมราชจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือร้อยละ 68.86 ในขณะที่ H-International (SG) Pte. Ltd จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือร้อยละ1.14 เนื่องจากได้นำหุ้นออกเสนอขายในครั้งนี้ด้วย
ข่าวเด่น