นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สั่งการให้กรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์ราคาผัก และปริมาณผลผลิตที่จะเข้าสู่ตลาด คาดว่าปริมาณผักในช่วงเทศกาลกินเจที่กำลังจะมาถึง (วันที่ 1 – 9 ตุลาคม 2559) จะมีปริมาณเพียงพอ อย่างไรก็ตาม ราคาผักอาจจะยังคงอยู่ในระดับสูงตามปริมาณผลผลิตที่เข้าสู่ตลาดในแต่ละวันและความต้องการที่สูงขึ้น ขอให้ประชาชนเป็นผู้บริโภคยุคใหม่ “ฉลาดซื้อ ประหยัดใช้” เปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อพิทักษ์ประโยชน์ของตนเอง และหากพบเห็นหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ แจ้งที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
ในช่วงใกล้เทศกาลกินเจ ในปี 2559 ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนมีความต้องการบริโภคพืชผักเพิ่มสูงขึ้น กระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์ราคาผัก พบว่าผักใบตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่สองของเดือนกันยายน 2559 เป็นต้นมา ราคาผักบางชนิดได้ปรับตัวลดลง ร้อยละ 8 – 26 โดยเฉพาะผักใบ (ผักกาดหอม คะน้า ผักชี ต้นหอม และขึ้นฉ่าย) เนื่องจากมีฝนตกในแหล่งผลิตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลผลิตได้รับน้ำอย่างเพียงพอ ปริมาณผลผลิตจึงออกสู่ตลาดต่อเนื่องและมีปริมาณเพียงพอกับความต้องการของตลาด ส่วนผักใบ (กาบแข็ง) ที่ปลูกบนที่สูง ได้แก่ กะหล่ำปลี และผักกาดขาวปลี ราคาโดยทั่วไปยังคงทรงตัวอยู่ ส่วนผักผล ราคายังคงทรงตัวต่อเนื่องจากต้นเดือนกันยายน ยกเว้นมะระจีน มะเขือเทศเจ้าพระยา และถั่วฝักยาวปรับตัวลดลง เนื่องจากผลผลิตมีเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณมีเพียงพอกับความต้องการของตลาด
สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ผัก จากการสอบถามกับเกษตรกรผู้ปลูกผักในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันตก ปรากฏว่ายังมีผักที่เกษตรกรส่วนใหญ่เพาะปลูกไว้รอเก็บเกี่ยวออกสู่ตลาดในช่วงเทศกาลกินเจ ประกอบกับในช่วงเดือนตุลาคม ภาวะฝนจะเบาบางลงจึงไม่น่าส่งผลกระทบต่อความเสียหายของผัก คาดว่าปริมาณผักในช่วงเทศกาลกินเจจะมีปริมาณเพียงพอ อย่างไรก็ตาม ราคาผักอาจจะยังคงอยู่ในระดับสูงตามปริมาณผลผลิตที่เข้าสู่ตลาดในแต่ละวันและความต้องการที่สูงขึ้น
พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ยังกล่าวด้วยว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในประสานกับตลาดสดในความส่งเสริมของกรมฯ จัดกิจกรรมเพื่อเชื่อมโยงผักสดจากแหล่งผลิต (เกษตรกร) หรือตลาดกลางเข้าสู่ตลาดสดแล้วกระจายไปสู่ผู้บริโภคอีกด้วย สำหรับตลาดสดที่จะจัดกิจกรรมดังกล่าวมีทั้งในกทม. และภูมิภาค ตลาดในเขตกทม. ได้แก่ ตลาดศูนย์การค้ามีนบุรี ตลาดอ่อนนุชเฟรชมาร์ท ตลาดยิ่งเจริญ และตลาดแฮปปี้แลนด์ ในภูมิภาค ได้แก่ ตลาดศูนย์การค้ากำแพงเพชร (จังหวัดกำแพงเพชร) ตลาดบางลำพู (จังหวัดขอนแก่น) ตลาดศูนย์การค้ารังสิต (จังหวัดปทุมธานี) และตลาดเสรี (จังหวัดนครปฐม) ตลาดกลางผักและผลไม้ในภูมิภาค 3 จังหวัด 3 แห่ง ได้แก่ ตลาดศรีนคร (จังหวัดนครสวรรค์) ตลาดไท (จังหวัดปทุมธานี) ตลาดย่าโม (จังหวัดนครราชสีมา) และเครือข่ายของกรมฯ ได้แก่ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว จังหวัดปัตตานี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กระทรวงพาณิชย์ยังเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่หลายจังหวัดอย่างใกล้ชิด โดยจะดูแลให้สินค้าอุปโภคบริโภคมีปริมาณเพียงพอกับความต้องการไม่ขาดแคลน และกำชับไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบประชาชนผู้บริโภคโดยเด็ดขาด รวมทั้งติดตามสินค้าที่เป็นพืชผลทางการเกษตรในพื้นที่ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อกำหนดมาตรการช่วยเหลือต่อไป
ข่าวเด่น