ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
เตือนหน้าฝนระวังผู้สูงอายุ-เด็กป่วยเป็นโรคปอดบวม ปีนี้พบป่วยแล้วกว่าแสนราย


 


กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ  สั่งสำนักสนับสนุนบริการสุขภาพทุกเขต เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมใกล้ชิด   ย้ำเตือนประชาชนระวังป่วยโรคปอดบวมในช่วงฤดูฝน รายงานกรมควบคุมโรคปี 2559  ตั้งแต่ 1 มกราคม - 19 กันยายน  ทั้ง 77 จังหวัด  พบผู้ป่วยแล้ว 161,294 ราย   ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเด็กเล็ก  เสียชีวิต 270 ราย  แนะผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หากป่วย 3 วันแล้วอาการไม่ดีขึ้น ไข้ไม่ลดลง  ไอ เหนื่อยหอบง่าย  ให้รีบพบแพทย์ทันที 

นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง  ไตรเรืองวรวัฒน์  อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการรับมือสถานการณ์น้ำท่วมจากฝนตกหนักหลายพื้นที่ ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้สำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพทั้ง 12 เขตทั่วประเทศ  เฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และให้ทีมวิศวกรเคลื่อนที่เร็ว 30 ทีม เตรียมพร้อมสนับสนุนโรงพยาบาลทันทีหากมีน้ำท่วม เพื่อให้สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง     

นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรืองกล่าวต่อว่า สภาพที่มีฝนตกชุกในช่วงนี้ อากาศจะมีความชื้นสูง ทำให้ผู้ที่มีสุขภาพไม่แข็งแรงหรือมีภูมิต้านทานน้อย   เจ็บป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจได้ง่ายและที่พบบ่อยคือโรคปอดบวม ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของโรคติดเชื้อทั้งหมด   มักเป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือโรคอื่นๆ เช่น หัด พบได้บ่อยในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวเช่น โรคหัวใจ โรคปอดเรื้อรัง โรคเบาหวาน หรือผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง 

ทั้งนี้ จากรายงานของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรคในรอบ 9 เดือนปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-19 กันยายน 2559   มีรายงานพบผู้ป่วยโรคปอดบวมจาก 77 จังหวัด รวม 161,294  ราย  ประมาณร้อยละ 50 เป็นผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปและเด็กอายุต่ำกว่า 2  ปี มีผู้เสียชีวิตรวม 270 ราย   เมื่อเทียบกับประชากรทุกๆ 1 แสนคน พบว่าภาคเหนือมีอัตราป่วยจากโรคนี้สูงที่สุดจำนวน 293.18 คน  รองลงมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนืออัตรา 289.37 คน ภาคใต้อัตรา 215.05 คน และภาคกลางอัตรา 197.60 คน ได้ขอความร่วมมือให้อาสาสมัครสาธารณสุขหรืออสม.ทุกหมู่บ้าน ให้ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชนในการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุ
 

ด้านนายแพทย์ฐิติพงษ์  ยิ่งยง นายแพทย์ชำนาญการ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า  โรคปอดบวมเป็นโรคที่มีความรุนแรงสูง เกิดจากการติดเชื้อหลายชนิด เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส อาจเป็นโรคแทรกซ้อนหลังจากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ประมาณ 3 วัน โดยผู้ป่วยจะมีไข้สูง  ไอ เหนื่อยหอบง่าย และอาจมีเสมหะ หรือมีอาการเจ็บหน้าอกร่วมด้วย โดยเด็กเล็กและผู้สูงอายุ อาจจะมีอาการเหล่านี้ไม่ชัดเจนหรือไม่ครบทุกอย่าง จึงควรให้ความสนใจมากกว่าปกติ  เช่น ในผู้สูงอายุอาจจะมีไข้ หรือตัวอุ่นๆ และมีอาการซึมลง    ส่วนในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี จะมีไข้สูง ซึม ไม่ดื่มน้ำหรือนม หายใจหอบเร็วหรือหายใจมีเสียงดังหวีดหรือหายใจแรงจนชายโครงบุ๋ม  หากมีอาการดังกล่าวขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที จะช่วยลดอาการรุนแรง ลดการเสียชีวิตได้ 

สำหรับการป้องกันโรคปอดบวม ขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สวมเสื้อผ้าให้ความอบอุ่นร่างกาย  เพิ่มการรับประทานอาหารประเภทผักและผลไม้ให้มากขึ้น พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วย ใช้ช้อนกลางเมื่อรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น   หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีคนแออัด  ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งภายหลังสัมผัสผู้ป่วยหรือสิ่งของ  ถ้าป่วยเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ใช้หน้ากากอนามัยปิดจมูกเวลาไอหรือจาม และพักผ่อนมากๆ  ควรหยุดทำงาน หยุดเรียน อาการจะค่อยๆ ดีขึ้น 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 23 ก.ย. 2559 เวลา : 14:34:06

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 4:03 am