โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยสินเชื่อประชารัฐเพื่อประชาชนมีผู้ได้รับประโยชน์แล้วกว่า 2.6 หมื่นราย ผู้ค้ารายย่อยยังมีโอกาสขอได้ถึง 30 ธันวาคม นี้ ระบุ รัฐบาลต้องการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ไม่ได้สนับสนุนให้เป็นหนี้
วันนี้ (25 ก.ย. 59) พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในระยะเวลาเกือบ 2 เดือนที่รัฐบาลเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนในโครงการสินเชื่อประชารัฐเพื่อประชาชน มีผู้ลงทะเบียนแล้ว จำนวน 37,634 ราย ได้รับอนุมัติสินเชื่อไปแล้วเป็นจำนวน 26,066 ราย คิดเป็นเงิน 3,024.02 ล้านบาท
“รัฐบาลสนับสนุนสินเชื่อสำหรับโครงการนี้ผ่านธนาคารออมสินให้แก่ผู้ค้ารายย่อย เช่น พ่อค้าแม่ค้า วินมอเตอร์ไซค์ รถรับจ้างสาธารณะ หรือ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน โดยสามารถนำเงินที่ได้ไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ ใช้บรรเทาความเดือดร้อนในการดำรงชีพ หรือใช้ชำระหนี้สินต่างๆ รวมถึงหนี้นอกระบบ ซึ่งผู้สนใจยังสามารถลงทะเบียนขอสินเชื่อได้ถึง 30 ธันวาคม 2559 นี้
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้กำหนดวงเงินให้กู้รายละไม่เกิน 50,000 บาท ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องชำระคืนภายใน 5 ปี ผู้กู้จะต้องมีอาชีพและรายได้ที่แน่นอน มีที่อยู่อาศัยแน่นอนที่สามารถติดต่อได้ มีอายุ 20 ปีขึ้นไปโดยรวมกับระยะเวลาชำระเงินกู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี เพื่อให้มั่นใจว่าผู้กู้มีความสามารถในการผ่อนชำระสินเชื่อได้”
พลเอก ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง และธนาคารออมสินประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ทั่วถึงประชาชนกลุ่มเป้าหมายเพื่อไม่ให้เสียโอกาส โดยธนาคารแต่ละสาขาจะต้องมีเจ้าหน้าที่ที่พร้อมอธิบายรายละเอียดโครงการ วัตถุประสงค์ และเหตุผลของเงื่อนไขต่างๆ อย่างชัดเจนให้พี่น้องประชาชนเข้าใจเพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาในความยากของการอนุมัติสินเชื่อ
“รัฐบาลมีเจตนารมณ์ที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ไม่ได้เป็นการสนับสนุนให้คนเป็นหนี้ ส่วนคนที่เป็นหนี้อยู่แล้วจากการกู้เงินนอกระบบ สินเชื่อจากโครงการนี้จะช่วยยืดระยะเวลาให้ปัญหาบรรเทาเบาบางลงได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะขอสินเชื่อควรขอเท่าที่จำเป็นและมีความสามารถในการผ่อนชำระ เพื่อไม่ให้เป็นการพอกพูนปัญหาหนี้สินให้มากขึ้น และน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้บริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ในการดำรงชีวิต”
ข่าวเด่น